ความพร้อมของสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์

ความพร้อมของสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์

สร้างประสิทธิภาพในทุกรายละเอียดเพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจสูงสุดของผู้โดยสาร

 

จากการให้บริการของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ขนส่งสาธารณะระบบรางของประเทศไทย ซึ่งให้บริการรับส่งผู้โดยสารจากชานเมืองเข้าสู่ตัวเมืองชั้นใน ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ผู้โดยสารที่มีความต้องการเดินทางไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึงกว่าหนึ่งแสนคนต่อวัน ทั้งนี้ ในการให้บริการ นอกจากขบวนรถและระบบการเดินรถไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพแล้ว บริเวณสถานีและชานชาลายังถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการรองรับผู้โดยสาร เพราะเป็นทั้งจุดเริ่มต้น จุดหมายปลายทาง ตลอดจนจุดเชื่อมต่อที่ผู้โดยสารจำเป็นต้องแวะเวียนมาอย่างไม่ขาดสาย ดังนั้นความพร้อมในการให้บริการของสถานีย่อมเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทางบริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้ให้ความสำคัญและได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ ตลอดจนพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในทุกสถานีอย่างสม่ำเสมอ

 

นายอธิพล  ศาสตรานรากุล ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมการเดินรถ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการสถานีรถไฟฟ้า บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด เผยว่า “สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ปัจจุบันเปิดให้บริการทั้งสิ้น 8 สถานี ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลาดกระบัง ทับช้าง หัวหมาก รามคำแหง มักกะสัน ราชปรารภ และ พญาไท มีผู้โดยสารเฉลี่ยในวันทำงาน 76,000 คนต่อวัน ส่วนในวันหยุดเฉลี่ย 58,000 คนต่อวัน โดยผู้โดยสารประมาณ 21 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งสถานีพญาไทเป็นสถานีที่มีผู้โดยสารเฉลี่ยสูงที่สุด อยู่ที่ประมาณ 15,000 คนต่อวัน ซึ่งเป็นสถานีสำคัญที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส รองลงมาคือที่สนามบิน สถานีสุวรรณภูมิ สถานีมักกะสันซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT และสถานีลาดกระบังซึ่งเป็นเขตชุมชนและหมู่บ้านรวมถึงสถานศึกษา

โดยในแต่ละสถานี มีผู้ปฏิบัติหน้า ประกอบด้วย นายสถานี ผู้ช่วยนายสถานี เจ้าหน้าที่จำหน่ายบัตรโดยสาร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งจำนวนของเจ้าหน้าที่จำหน่ายบัตรโดยสาร เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและแม่บ้านนั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของสถานีรวมถึงปริมาณเฉลี่ยของผู้โดยสารนอกจากนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย ในทุกสถานียังมีระบบกล้องวงจรปิด ตำรวจรถไฟประจำสถานี รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบที่ได้ปฏิบัติงานปะปนอยู่กับประชาชนทั้งในสถานีและในขบวนรถไฟฟ้า เพื่อดูแลความเรียบร้อยและพร้อมรับกับเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนั้น บริเวณสถานียังมีห้องรายงานตัวเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ควบคุมรถไฟฟ้าก่อนเริ่มปฏิบัติงาน เพื่อตรวจเช็คความพร้อมของเจ้าหน้าที่เดินรถไฟฟ้าว่าอยู่ในสภาพพร้อมทำงาน สามารถควบคุมรถไฟฟ้าได้และจะสามารถนำพาผู้โดยสารให้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย

 

ในด้านความพร้อมของขบวนรถไฟฟ้า ในช่วงเวลาปกติ ความถี่ของการเดินรถจะอยู่ที่ 10 นาที ส่วนการเดินรถในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็นจะอยู่ที่ 8.5 นาที เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารและลดความแออัดทั้งในขบวนรถ และยังมีการปล่อยขบวนเสริมในทุกวันในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าวันละ 5 ขบวน เย็น 5 ขบวนหรือขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละวัน เพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มเติมให้กับผู้โดยสาร นอกจากนั้นยังได้มีการอบรมเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับมาตรการ Crowd Control หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานในช่วงที่มีปริมาณผู้โดยสารแออัด โดยให้ผู้โดยสารบางส่วนรออยู่ที่ชั้นจำหน่ายบัตรโดยสารก่อน โดยดูจากปริมาณของผู้โดยสารบนชานชาลา โดยหากผู้โดยสารได้ทยอยเดินทางออกไปแล้ว

จึงค่อยให้ผู้โดยสารรอบต่อไปขึ้นไปยังบริเวณชานชาลาได้ เพื่อลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้เนื่องจากความแออัดที่มากเกินไป นอกจากนั้น ยังมีการอบรมเจ้าหน้าที่ในด้านการปฐมพยาบาลและการทำ CPR อีกทั้งในทุกสถานียังมีเครื่องกระตุ้นหัวใจ ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ทันทีในกรณีที่ผู้โดยสารอยู่ในภาวะฉุกเฉิน ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน ทางแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้มีบริการในส่วนของลิฟท์และบันไดเลื่อน ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนรวมกันกว่า 140 ตัว รวมถึงห้องน้ำ ที่มีให้บริการในทุกสถานี ตลอดจนรถวีลแชร์และทางพาดระหว่างชานชาลากับขบวนรถ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ นอกจากนั้น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมอื่นๆเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้โดยสารในขณะที่อยู่บริเวณสถานี อาทิ Free Wifi จุดชาร์ตแบตโทรศัพท์มือถือ พัดลมระบายอากาศ เป็นต้น

 

ทั้งนี้ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เป็นระบบขนส่งสาธารณะระบบรางที่บริหารโดยรัฐ และได้มีการพัฒนาศักยภาพและมาตรฐานการให้บริการอย่างต่อเนื่องจนทัดเทียมระดับสากล ในขณะเดียวกัน ยังคงไว้ซึ่งอัตราค่าโดยสารที่ค่อนข้างประหยัดและคุ้มค่าเมื่อเทียบเป็นระยะทางที่ให้บริการ ซึ่งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพในด้านต่างๆอยู่เสมอ เพื่อให้เป็นหนึ่งในการบริการของรัฐที่สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ประชาชน” นายอธิพลกล่าว