พุทธสถานบุญญพลัง ชี้แจง หลังพ้นทุกข้อกล่าวหา

พุทธสถานบุญญพลัง ชี้แจง หลังพ้นทุกข้อกล่าวหา

.

พุทธสถานบุญญพลัง ชี้แจง หลังพ้นทุกข้อกล่าวหา ตามที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้แจ้งความดำเนินคดี และขอให้เร่งบรรจุคืน โครงการพุทธอุทยาน 

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2562 
กลุ่มลูกศิษย์ที่พักสงฆ์พุทธสถานบุญญพลัง 30 กว่าคน ได้รวมตัวกันมาชี้แจงข้อเท็จจริง ผ่านองค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม โดยมีนายกฤตชัย พยอมแย้ม ประธานองค์กรฯ และ ดร.โรจนศักดิ์ แสงธศิริวิไล เลขาธิการ องค์กรฯ หลังมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง พุทธสถานบุญญพลัง พ้นทุกข้อกล่าวหา ตามที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้แจ้งความดำเนินคดีครอบครองไม้แปรรูปและครอบครองสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังได้เพิกถอนออกจากโครงการพุทธอุทยาน เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

ที่ผ่านมาคณะลูกศิษย์บุญญพลัง เข้าพบนายเฉลิมชัย ปาปะทา รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อแสดงพยานหลักฐานว่าที่พักสงฆ์ไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไขของโครงการพุทธอุทยาน เนื่องจากพนักงานอัยการได้มีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีครอบครองไม้แปรรูป และครอบครองสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว และฐานพระองค์ใหญ่ที่กำลังก่อสร้างนั้นก็เป็นการก่อสร้างมาก่อนเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยาน และยังระบุอยู่ในเอกสารโครงการพุทธอุทยานส่งเสริมให้ที่พักสงฆ์ช่วยงานด้านป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2559 – พ.ศ. 2563  มาตั้งแต่ต้นแล้ว ที่พักสงฆ์จึงไม่ได้กระทำผิดเงื่อนไขของโครงการตามที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ลงนามในคำสั่งเพิกถอน เมื่อวันที่  12  ตุลาคม  2560

ซึ่งที่ผ่านมา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์  และเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรงของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  3  (บ้านโป่ง) ได้จัดให้มีประชุมร่วมกับพระภิกษุสงฆ์และตัวแทนของที่พักสงฆ์ ซึ่งที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า หากที่พักสงฆ์ถอนฟ้องคดีที่ที่พักสงฆ์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ทุกคดี และที่พักสงฆ์ฯ ไม่มีความผิดในคดีที่ถูกกรมอุทยานแห่งชาติฯ แจ้งความดำเนินคดีทั้งหมดแล้ว  กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะนำที่พักสงฆ์กลับเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานเช่นเดิม

จากนั้นวันที่  17  พฤษภาคม  2562  
คณะลูกศิษย์ได้รับการชี้แจง ผลการประชุมที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่า  หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาไม่ขัดข้องที่จะนำที่พักสงฆ์กลับเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานเช่นเดิม โดยได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการฝ่ายนิติการเป็นผู้รวบรวมข้อเท็จจริงเสนอต่ออธิบดีกรมฯ ลงนามอนุมัตให้ที่พักสงฆ์กลับเข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน  2 สัปดาห์    

ณ  วันนี้ได้ล่วงเลยระยะเวลาที่ตัวแทนของกรมอุทยานแห่งชาติฯ เคยแจ้งแก่คณะลูกศิษย์ฯ มาพอสมควรแล้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ก็ยังไม่ได้อนุมัตให้ที่พักสงฆ์กลับเข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด นอกจากนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ยังได้มีการส่งเรื่องกลับไปที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  3  (บ้านโป่ง)  เพื่อให้พิจารณาอีกรอบ ทำให้กระบวนการยิ่งล่าช้าขึ้นไปอีก กลุ่มคณะลูกศิษย์จึงมายื่นเรื่องร้องเรียนเพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้า 

นายกฤตชัย พยอมแย้ม ประธานองค์กรพิทักษ์ความเป็นธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า  โครงการพุทธอุทยานพุทธสถานบุญญพลัง เป็นโครงการที่ดี ทั้งด้านส่งเสริมพระพุทธศาสนา และอนาคตยังส่งเสริมเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่เป็นหน้าเป็นตา ของชาว จ.กาญจนบุรี กระบวนการของกฎหมายถือเป็นอันสิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ควรจะเร่งดำเนินการอนุมัตให้ที่พักสงฆ์ฯ กลับเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานเหมือนเดิม

นายธราวุฒิ ชุมภูแสง ลูกศิษย์บุญญพลัง ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ความสนใจติดตามเรื่องนี้อยู่เป็นจำนวนมาก และเฝ้ารอให้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ อนุมัตให้ที่พักสงฆ์กลับเข้าร่วมโครงการพุทธอุทยานเหมือนเดิม ตลอดเวลาที่ผ่านมาร่วม 2 ปี พักสงฆ์ได้พิสูจน์ตามกระบวนการของกฎหมายจนสิ้นแล้วว่าไม่มีความผิดใดตามเหตุที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ นำมาเพิกถอนที่พักสงฆ์ออกจากโครงการพุทธอุทยาน