‘กรังด์ปรีซ์ฯ’ รุกเปิดศูนย์เรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด

‘กรังด์ปรีซ์ฯ’ รุกเปิดศูนย์เรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด

‘กรังด์ปรีซ์ฯ’ รุกเปิดศูนย์เรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด ตั้งเป้าต่อยอดเสริมรายได้รับจัดกิจกรรมแก่ค่ายผู้ผลิตยานยนต์

บมจ.กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ GPI ต่อยอดขยายไลน์ธุรกิจ เปิดให้บริการศูนย์การเรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด 4WD บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี พร้อมออกแบบโปรแกรมฝึกอบรมภาคทฤษฎีและปฏิบัติครบวงจร ตั้งเป้าเจาะกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ที่ต้องการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการขายหรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย หวังเพิ่มรายได้ให้แก่ธุรกิจรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของกรังด์ปรีซ์ฯ 

 

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ GPI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ขยายไลน์ธุรกิจใหม่การรับจัดกิจกรรมและการฝึกอบรมทักษะการขับขี่ให้แก่ค่ายผู้ผลิตรถแบรนด์ต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้จากการรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยได้เปิดให้บริการศูนย์การเรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด 4WD หรือ THAILAND OFF ROAD ACADEMY ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ในอำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับสนามกรังด์ปรีซ์ กอล์ฟ คลับ  ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่รถออฟโรดได้ทุกรูปแบบ และยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ทักษะการขับขี่รถออฟโรดที่ได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบัน

 

การเปิดให้บริการศูนย์ฯ ดังกล่าว เพื่อเจาะกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ทุกแบรนด์ ทั้งค่ายรถชั้นนำจากญี่ปุ่นและยุโรปที่ต้องการให้บริษัทฯ ออกแบบโปรแกรมและจัดกิจกรรมฝึกทักษะการขับขี่หรือจัดกิจกรรมทดสอบการขับขี่รถออฟโรดเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการขายและทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายของค่ายผู้ผลิตรถ หรือต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า โดยบริษัทฯ มีทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการจัดกิจกรรมเรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด  โดยได้ออกแบบโปรแกรมการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎี อาทิ การเรียนรู้ระบบเกียร์ เทคนิคการขับรถและข้อปฏิบัติพื้นฐาน ฯลฯ และการฝึกทักษะภาคปฏิบัติ โดยมีทีมงานระดับแชมป์ด้าน 4WD ของประเทศไทย และได้ออกแบบสนามให้มีด่านฝึกทักษะรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลายรวม 10 สถานี อาทิ การขับขี่ผ่านบ่อทราย, บ่อน้ำ, เนินชันและด่านทดสอบระบบเบรค ฯลฯ เพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการฝึกอบรมได้มีทักษะการขับขี่เพิ่มขึ้นและสามารถนำไปใช้งานได้จริง

 

“เรามองว่าการรับจัดกิจกรรมฝึกอบรมทักษะการขับรถออฟโรดเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีโอกาสสร้างรายได้ที่ดีในอนาคต เพื่อต่อยอดให้แก่ธุรกิจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด จึงตัดสินใจลงทุนเปิดศูนย์การเรียนรู้ทักษะการขับรถออฟโรด 4WD และเชื่อว่าในอนาคตจะได้รับความสนใจจากค่ายผู้ผลิตรถต่างๆ เข้ามาจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้น” ดร.ปราจิน กล่าว