ร้อง กสทช. ปมที่ปรึกษาอิสระดีลควบรวม "ทรู-ดีแทค" ขาดคุณสมบัติ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ร้อง กสทช. ปมที่ปรึกษาอิสระดีลควบรวม "ทรู-ดีแทค" ขาดคุณสมบัติ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ร้อง กสทช. ปม บล.ฟินันซ่า ที่ปรึกษาอิสระดีลควบรวม "ทรู-ดีแทค" ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากมีผลประโยชน์ทับซ้อน ขัดต่อประกาศ ปี 2561

นายเอกชัย ไชยนุวัติ นักวิชาการด้านกฎหมาย เดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เรื่องการขาดคุณสมบัติและความไม่สมบูรณ์ของความเห็นของที่ปรึกษาอิสระ บริษัท หลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในกรณีการรวมธุรกิจระหว่าง ทรู-ดีแทค ถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และเลขาธิการ กสทช.

นายเอกชัย ไชยนุวัติ นักวิชาการด้านกฎหมาย กล่าวว่า จากที่ได้ติดตามความคืบหน้าในการพิจารณาดีลควบรวม ทรู-ดีแทค อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดนั้น ตนยังไม่เคยเห็นการชี้แจงจากคณะกรรมการ กสทช. ในประเด็นเรื่องที่ปรึกษาอิสระ (บริษัท หลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด) ซึ่งตนมีข้อสงสัยและท้วงติงในประเด็นดังกล่าว

ร้อง กสทช. ปมที่ปรึกษาอิสระดีลควบรวม "ทรู-ดีแทค" ขาดคุณสมบัติ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

เนื่องจากในวรรคท้ายของ ข้อ 10. ในประกาศปี 2561 กสทช. เรื่องมาตรการกำกับดูแลรวมธุรกิจในกิจการ บัญญัติให้ "เลขาธิการ กสทช. แต่งตั้งที่ปรึกษาอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นไปตามภาคผนวก ท้ายประกาศนี้ ในการจัดทําความเห็นประกอบการรายงานการรวมธุรกิจ" และตามภาคผนวก ที่ปรึกษาอิสระต้อง "มีความเป็นอิสระ ไม่มีความเกี่ยวข้องหรือส่วนได้เสียกับผู้รับใบอนุญาตหรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาตหรือผู้รับใบอนุญาตรายอื่นที่รวมธุรกิจกับผู้รับใบอนุญาตหรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว" และในข้อ 2.2 "ไม่ได้ถูกถือหุ้นโดยผู้รับใบอนุญาตหรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาต หรือบริษัทในกลุ่มของผู้รับใบอนุญาต หรือบริษัทในเครือของผู้รับใบอนุญาต หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งกับ ผู้รับใบอนุญาตหรือผู้มีอำนาจควบคุมของผู้รับใบอนุญาต" แต่มีข้อเท็จจริงปรากฎ ดังนี้

บริษัท หลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาอิสระ ที่ผู้ขอควบรวม เป็นผู้ส่งชื่อมาให้ กสทช. แต่งตั้งมาให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา โดย บล.ฟินันซ่า มีความเกี่ยวข้อง และมีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้มีอำนาจควบคุม กรรมการ ของทรูที่เป็นผู้ขอควบรวมคือ บล.ฟินันซ่า ถือหุ้นทั้งหมด 100% โดย บล.ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (บล. เอฟเอสเอส) ซึ่งบล. เอฟเอสเอส มีบล.ฟินันเซีย ไซรัส ถือหุ้นอยู่ 89.99% ซึ่ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส มีนายชวัล เจียรวนนท์ ถือหุ้นอยู่ 1.63% โดยมีนายชัชวาล เจียนวนนท์ ซึ่งเป็นบิดาของนายชวัล เจียรวนนท์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ และนายชัชวาล เจียรวนนท์ ก็ยังดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารในทรูหรือผู้ขอควบรวมด้วย

ดังนั้น บล.ฟินันซ่า จึงขาดคุณสมบัติในเรื่องความเป็นอิสระ ไม่สามารถทำหน้าที่ที่ปรึกษาอิสระ ที่จะให้ความเห็นประกอบการพิจารณาของ กสทช. ได้ ตามประกาศการรวมธุรกิจ ปี 2561 เพราะเนื่องนายชัชวาล เป็นประธานกรรมการของบริษัทที่ถือหุ้นทางอ้อมอยู่ใน บล.ฟินันซ่าถึง 89.99% ก็ย่อมจะเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการ กสทช. ในเรื่องการควบรวมที่เป็นประโยชน์ให้แก่ผู้ควบรวมธุรกิจ

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคมระหว่าง ทรู-ดีแทค ของสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565 ส่งผลการศึกษาและข้อเสนอให้นายกฯ ชะลอการควบรวมนี้ไว้ก่อน โดยผลการศึกษาพบว่า คุณสมบัติของที่ปรึกษานั้น อาจไม่มีความเป็นอิสระจริง รวมทั้งอาจขัดต่อหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกที่ กสทช. ได้กำหนดไว้ ซึ่งกรรมาธิการได้ทักท้วงต่อตัวแทน กสทช. ที่เข้าร่วมประชุมแล้ว แต่ กสทช. ไม่ได้ชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัยหรือดำเนินการเรื่องนี้แต่อย่างใด

ขั้นตอนการทำงานของที่ปรึกษาอิสระกับสำนักงาน กสทช. พบว่า บล.ฟินันซ่า ที่แต่งตั้งขึ้นมานั้น ซึ่งโดยปกติก็จะต้องทำงานศึกษา หาข้อมูลให้ความเห็นต่างๆ ตามที่สำนักงาน กสทช. ในฐานะผู้แต่งตั้งแจ้งให้ดำเนินการ แต่ปรากฏว่าเมื่อ บล.ฟินันซ่า ส่งรายงานความเห็นของตนให้สำนักงาน กสทช. พิจารณา แต่สำนักงาน กสทช. เห็นว่าข้อมูลบางประเด็นยังไม่ครบถ้วนขอให้ศึกษาเพิ่มเติม มิฉะนั้นจะเป็นรายงานที่ไม่สมบูรณ์ แต่ บล.ฟินันซ่า กลับปฏิเสธไม่ดำเนินการให้ แม้สำนักงาน กสทช. จะแจ้งให้ทรูและดีแทค ทราบแล้วก็ตาม จนกระทั่ง ด้วยความเอื้อเฟื้อของ สำนักงานกสทช. เพื่อให้ดีลนี้สำเร็จลุล่วงไปได้

สำนักงาน กสทช. จึงเป็นผู้ลงมือศึกษาและจัดทำรายงานเพิ่มเติมขึ้นมาเองแทนที่จะเป็นที่ปรึกษาอิสระเป็นผู้ทำ ด้วยเหตุนี้ กสทช. ย่อมไม่สามารถนำรายงานดังกล่าวมาใช้ในการพิจารณาได้ ต้องให้ที่ปรึกษาอิสระเป็นผู้ทำเพิ่มเติมมา มิฉะนั้น จะเป็นรายงานที่ไม่ถูกต้อง และไม่ครบถ้วนตามขั้นตอนที่ประกาศฯ กำหนดไว้

ร้อง กสทช. ปมที่ปรึกษาอิสระดีลควบรวม "ทรู-ดีแทค" ขาดคุณสมบัติ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ตามที่ คณะกรรมการ กสทช. ได้มีการทำเรื่องหารือถึงอำนาจหน้าที่ของตนต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นครั้งที่สอง ตนเห็นว่า กสทช. เป็นองค์กรที่มีอิสระในการกำกับดูแลการประกอบกิจการ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 60  อีกทั้ง ตามระเบียบของคณะกรรมการกฤษฎีกาเอง ก็ได้ระบุชัดเจนว่ามีอำนาจหน้าที่ในการให้คำปรึกษาข้อกฎหมายแก่หน่วยงานราชการที่อยู่ในอำนาจกำกับดูแลของฝ่ายบริหารเท่านั้น ดังนั้น ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงไม่ผูกพันคณะกรรมการ กสทช. เพราะขัดต่อการทำหน้าที่ในฐานะองค์กรอิสระของคณะกรรมการ กสทช. เป็นเหตุให้คณะกรรมการ กสทช. ไม่สามารถใช้เพื่ออ้างอิงในการพิจารณาใดๆ ได้

นายเอกชัย กล่าวปิดท้ายว่า ขอให้คณะกรรมการ กสทช. พิจารณายกเลิกการแต่งตั้งบริษัท หลักทรัพย์ฟินันซ่า จำกัด ให้เป็นที่ปรึกษาอิสระในการจัดทำความเห็นประกอบการควบรวมในครั้งนี้ และดำเนินการให้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาอิสระซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามประกาศเรื่องมาตรการควบรวมปี 2561 ซึ่งเป็นอิสระอย่างแท้จริง ปราศจากการแทรกแซงหรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับกลุ่มบริษัทของผู้ขอควบรวม