รวม 5 สเต็ปทาสีรั้วบ้าน ให้ได้แบบช่างมืออาชีพ!

 

หากพูดถึงเรื่องการทาสีด้วยตัวเอง อาจจะดูเป็นงานที่ยาก เพราะหลายคนน่าจะไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่การทาสีโดยเฉพาะการทาสีรั้วบ้านนั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสม และการเลือกชนิดสีให้ถูกต้องกับวัสดุที่เราจะทาลงไป เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลลัพธ์แบบช่างมืออาชีพกันแล้ว ในบทความนี้จะมาช่วยให้การทาสีรั้วบ้านของคุณง่ายขึ้น ด้วย 5 ขั้นตอนของการทาสีรั้วบ้านตัวเอง โดยเราจะเริ่มตั้งแต่การหาไอเดียของสีสันกันเลย

 

1. ตามหาไอเดีย และเลือกสีให้เหมาะสม

สีสำหรับทารั้วบ้านนั้นมีให้เลือกมากมาย แต่เราจะเลือกอย่างไรให้เหมาะสม และอยู่ทนทานมากที่สุด เรามีเทคนิคง่าย ๆ ในการเลือกสีทารั้วบ้าน คือให้ดูว่าตัวบ้านของคุณทาสีอะไรอยู่ สีของหลังคา สีขององค์ประกอบรอบ ๆ บ้าน หากมีสีโทนอ่อนเป็นโทนสีหลัก สีสำหรับทารั้วบ้านให้เพิ่มโทนสีขึ้นมาสัก 1 – 2  โทน เพื่อไม่ให้แสงสว่างสะท้อนเข้าบ้านมากจนเกินไป และหากเลือกใช้เป็นสีโทนเข้มต้องระวังไม่ให้เข้มมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้พื้นที่บริเวณบ้านดูอึดอัดได้

 

1. ทำความเข้าใจวัสดุของรั้วบ้านเดิมก่อนที่จะทาสี

 ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการลงสีให้ทำความเข้าใจกับวัสดุของรั้วบ้านของเราก่อนว่าทำมาจากวัสดุชนิดไหน เพื่อให้สามารถเลือกประเภทของสีทาทับได้อย่างถูกต้องเหมาะสม โดยเราได้สรุปมาให้แล้ว ดังนี้

 

• สำหรับรั้วบ้านที่ทำมาจากเหล็ก

สิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนการลงสีคือการทาสีรองพื้นก่อนเพื่อป้องกันสนิม และให้เลือกสีทาทับเป็นประเภทสีน้ำมัน ซึ่งในประเภทของสีน้ำมันก็จะมีชนิดของฟิล์มสีให้เราเลือกได้ตามความชอบ อย่าง สีน้ำมันที่ให้ผลลัพธ์ที่เสร็จแล้วแบบเงา มันวาว กึ่งเงา หรือสีน้ำมันที่ให้ผลลัพธ์เป็นแบบสีด้าน

 

• สำหรับรั้วบ้านที่ทำมาจากอิฐฉาบปูน หรือผนังคอนกรีต

การเลือกสีทาทับลงบนรั้วที่ทำมาจากวัสดุนี้สามารถเลือกใช้สีทาบ้านร่วมกันได้ โดยให้เลือกเป็นสีน้ำอะคริลิกสำหรับทาภายนอก เพื่อให้มีคุณสมบัติครอบคลุมสำหรับการใช้งาน โดยรั้วบ้านต้องเจอกับสภาพอากาศที่แตกต่างกันอยู่เสมอ ซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อให้สีติดทนนาน

 

• สำหรับรั้วบ้านที่ทำมาจากไม้จริง ไม้สังเคราะห์ หรือไฟเบอร์ซีเมนต์

สำหรับการทาสีลงไปบนรั้วที่มีลวดลายไม้ ไม่ว่าจะลายไม้จริง หรือลายไม้สังเคราะห์ ให้เราคิดถึงผลลัพธ์ก่อนว่าหลังจากลงสีทาทับไปแล้วนั้นยังอยากให้เห็นลายไม้เดิมอยู่หรือไม่ ถ้าต้องการให้เห็นลายไม้เดิมให้เลือกใช้เป็นสีย้อมไม้ เพราะเป็นสีที่มีความโปร่งแสง หรือหากไม่ต้องการให้เห็นลวดลายเดิมให้เลือกใช้ประเภทสีที่เรียกว่า สีทาไม้แบบทึบแสง ที่มีเฉดสีหลากหลาย พร้อมคุณสมบัติที่สามารถปกปิดพื้นผิวเดิมได้อย่างเรียบเนียน

 

1. จัดเตรียมอุปกรณ์ พร้อมทำความสะอาด และซ่อมแซมรั้วบ้าน

 

หลังจากได้เข้าใจการเลือกชนิดของสีที่ทาทับ แล้วมาเริ่มต้นเตรียมอุปกรณ์ได้เลย โดยหลัก ๆ สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ แปรงลงสี ลูกกลิ้งทาสีให้เลือกใช้ขนาดใหญ่หน่อยเพื่อให้สามารถลงสีได้อย่างทั่วถึง ถุงมือ ถาดผสมสี กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษลังเอาไว้รองพื้นรอบบริเวณรั้วที่เราทาสี หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดรั้วที่เราจะทาสีเสียก่อน และหากมีส่วนไหนเสียหาย หรือมีคราบสกปรกต้องขูดลอกออก เพื่อให้ลงสีทาทับได้อย่างเรียบเนียน

 

1. ลงสีรองพื้น

 สีรองพื้นจะช่วยทำให้การทาสีรั้วบ้านของเราครั้งนี้แนบเนียน และช่วยให้ตัวสียึดเกาะกับพื้นผิวได้ดียิ่งขึ้น แถมสีทารองพื้นยังมีคุณสมบัติป้องกันคราบสกปรกของพื้นผิวรั้วบ้านของเราได้ด้วย โดยสีรองพื้นก็จะมีแยกประเภทออกไปให้เหมาะสมกับวัสดุของแต่ละชนิด หลังจากลงสีทารองพื้นแล้วต้องรอให้พื้นผิวแห้งสนิทก่อนลงสีทารั้วบ้านต่อไป

5.ลงสีทาทับ พร้อมกับลงเคมีภัณฑ์สำหรับปกป้องพื้นผิวขั้นตอนต่อไปคือการลงสีจริง ให้เราตรวจเช็คสภาพอากาศให้ดี และให้เริ่มจากส่วนที่โดนแดดน้อยก่อน เพื่อว่าจะได้แห้งทันกับบริเวณที่โดนแดดมาก ๆ และให้ทำการทาทับ 2 รอบ แต่ไม่ควรทาทับมากถึง 5 รอบเพราะจะทำให้ชั้นผิวหนาเกินไป และเกิดการหลุดลอกได้ หลังจากนั้นเมื่อสีแห้งสนิทให้เลือกใช้เคมีภัณฑ์สำหรับปกป้องพื้นผิวโดยเฉพาะ อย่างเช่นรั้วที่มีวัสดุทำมาจากไม้ ต้องได้รับการปกป้องอีกชั้นเพื่อป้องกันแมลง และการพุพอง

ทั้งหมดนี้คือ 5 ขั้นตอนของการเปลี่ยนสีรั้วบ้านด้วยตัวคุณเอง เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจและได้เลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับสำหรับการเปลี่ยนสีรั้วบ้านครั้งสำคัญครั้งนี้ และให้ผลิตภัณฑ์ทาสีจาก TOA ได้ช่วยให้บ้านของคุณดูโดดเด่น และช่วยให้สีติดทนทาน โดยสามารถปรึกษาทีมงาน TOA ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสี และเคมีภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่เลย