เช็ก! คำสั่ง 'กาญจนบุรี' ผ่อนคลายมาตรการป้องกัน 'โควิด-19' มีผลวันนี้

นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ลงนามในคำสั่งจังหวัดกาญจนบุรีที่ 555/2564 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) จังหวัดกาญจนบุรี เป็นพื้นที่ควบคุม

จังหวัดกาญจนบุรีผ่อนผันให้สถานบริการ สถานประกอบการ สถานที่ สถานที่ออกกำลังกายเปิดให้บริการได้ดังนี้

1. สถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ สามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติของสถานที่นั้น ๆ แต่ไม่เกิน 23.00 น. และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค อย่างเคร่งครัด

1.1 ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรม สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง โรงพยาบาล ร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ รถเข็น หาบเร่ และแผงลอย ให้เปิดบริการโดยจัดที่นั่งรับประทานอาหารได้ แต่ไม่เกิน 23.00 น.

1.2 สำหรับร้านอาหารหรือสถานที่ซึ่งจำหน่ายสุรา และเครื่องดื่มที่มีแอลอฮอล์ สามารถเปิดบริการโดยให้มีการบริโภคในร้านได้ แต่ไม่เกิน 23.00 น. และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

2. การประชุม สัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารหรือสิ่งของต่าง ๆ หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการให้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่เกิน 300 คน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

3. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ให้งดจัดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากในสถานที่ และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

4. ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งขนาดย่อม ร้านค้าปลีกค้าส่งชุมชน ตลาด เปิดโดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

5. ร้านเสริมสวย แต่งผม หรือตัดผม สำหรับบุรุษหรือสตรี เปิดให้บริการโดยให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

6. สนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ หรือสนามฝึกซ้อมกอล์ฟ เทนนิส ขี่ม้า ยิงปืน ยิงธนู ต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันจำนวนมาก ในกรณีของสโมสร คลับเฮาส์ หรือร้านอาหาร ในบริเวณดังกล่าว และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

7. สวนสาธารณะ ลาน – พื้นที่กิจกรรมสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา ให้เปิดได้เฉพาะพื้นที่โล่งแจ้งเพื่อการเดิน วิ่ง ขี่หรือปั่นจักรยาน หรือการออกกำลังกายด้วยวิธีอื่น เป็นส่วนบุคคลโดยต้องไม่มีผู้ชมมาชุมนุมกันจำนวนมาก และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

8. สถานที่ออกกำลังกายในอาคาร ยิม ฟิตเนส และสนามมวย สามารถแข่งขันได้ มีผู้ชมตามเกณฑ์ที่กำหนด และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

9. สถานบริการ อาบน้ำ อาบอบนวด เปิดบริการได้ โดยจำกัดผู้ใช้บริการ และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

10. สถานประกอบกิจการสปา นวดแผนไทย เปิดบริการได้ โดยจำกัดผู้ใช้บริการ และให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด

การเข้มงวดกับสถานที่หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรคแบบกลุ่มก้อน เพื่อให้มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสามารถยับยั้งการระบาดของโรคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้มงวดในการเข้าตรวจสอบ สนามชนโค สนามชนไก่ สนามกัดปลา สนามฝึกซ้อม หรือแข่งขัน หรือการจัดกิจกรรมอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน ซึ่งทางราชการยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการในช่วงเวลานี้ ​

​การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าตรวจสอบการใช้อาคารสถานที่ และการดำเนินการของเจ้าของหรือผู้จัดการสถานที่ ให้เป็นไป ตามแนวทางมาตรการควบคุมแบบบูรณาการมาตรการป้องกันโรค รวมทั้งการจัดระเบียบ และระบบต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนด หากพบการกระทำที่อาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค พนักงานเจ้าหน้าที่อาจให้คำแนะนำ ตักเตือน ห้ามปราม และมีอำนาจกำหนดช่วงระยะเวลา เพื่อให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเพื่อป้องกันมิให้มีการแพร่ระบาดของโรค

รวมทั้งเสนอให้ผู้มีอำนาจ ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ มีคำสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่รับผิดชอบไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้ ในกรณีที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี มีคำสั่งปิดสถานที่ไว้เป็นการชั่วคราว เมื่อผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าของ หรือผู้จัดการสถานที่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางมาตรการควบคุมแบบบูรณาการ มาตรการป้องกันโรค รวมทั้งการจัดระเบียบและระบบต่าง ๆ ที่ทางราชการกำหนดแล้ว ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีมีอำนาจ สั่งให้สถานที่ดังกล่าวเปิดดำเนินการได้

การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด

​กรณีประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่ราชการกำหนด โดยต้องรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในท้องที่ เพื่อรับ การตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้ ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ติดตามและกำกับ ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด​ ​​

หาก ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติ ตามคำสั่งนี้โดยไม่มีเหตุอันสมควรจะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

​อนึ่ง ประกาศหรือคำสั่งใดที่ขัดหรือแย้งกับคำสั่งนี้ ให้ใช้คำสั่งนี้แทน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2564

อ่านคำสั่ง ฉบับเต็ม