โลกล้อมปราบสแกมเมอร์ สะเทือนนักการเมืองสีเทา

โลกล้อมปราบสแกมเมอร์ สะเทือนนักการเมืองสีเทา

จากปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา เวลานี้ดูเหมือนประเด็นจะคืบมาสู่การปราบปรามศูนย์สแกมเมอร์ ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้น ประเทศทั่วโลกกำลังขานรับปัญหาเรื่องนี้ และพร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปราม

เมื่อเป็นเช่นนี้ ถนนทุกสาย สายตาทุกคู่จากทั่วโลกจึงจับจ้องมาที่ไทย และไทยจะถูกกดดัน ไม่เพียงรัฐบาลที่ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง หากแต่ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับศูนย์สแกมเมอร์ ซึ่งมีรายงานข่าวจากต่างประเทศ ระบุว่า มีการทำงานกันอย่างเป็นขบวนการ ตั้งแต่หลอกลวงออนไลน์ไปจนถึงการฟอกเงินที่ได้จากการหลอกลวง ก็จะต้องถูกปราบปรามด้วยเช่นกัน และน่าจะเป็นเรื่องใหญ่กว่าทุกเรื่อง

ที่สำคัญ การชิงลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของ “วรภัค ธันยาวงษ์” พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าพัวพันกับขบวนการสแกมเมอร์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผลสะเทือนทางการเมือง   
ถ้าลำดับเหตุการณ์ อาจย้อนไปเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2568 ส.ส.จากพรรครีพับลีกันได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาของสหรัฐฯ เพื่อจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจร่วมระหว่างหน่วยงานเพื่อปราบปรามกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ฉ้อโกงชาวอเมริกัน โดยท้ายร่างกฎหมายดังกล่าวได้มีการระบุรายชื่อบุคคล/องค์กร 43 รายชื่อ ที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์สแกมเมอร์ในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเสนอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ดำเนินการคว่ำบาตรทั้ง 43 รายชื่อเหล่านี้

วันที่ 20 ตุลาคม 2568 ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จัดตั้งคณะทำงานเรื่องการปราบปรามสแกมเมอร์ โดยจะมี วรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นั่งเป็นประธานคณะทำงานจัดการปัญหาสแกมเมอร์

ก่อนที่ช่วงเย็นวันเดียวกัน “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี จะออกมาปฏิเสธว่า "ยังไม่มีชื่อใครเลย" หลังมีกระแสตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการแต่งตั้งนายวรภัคมาจัดการปัญหา สแกมเมอร์

 ในวันถัดมา (21 ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีกูล แจ้งที่ประชุมครม. ว่า ขอให้จัดความสำคัญยกระดับการปราบปรามสแกมเมอร์และมิจฉาชีพออนไลน์เป็น "วาระแห่งชาติ" หลังการประชุมดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสอบถามประเด็นนายวรภัคถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายฟอกเงินจากอาชญากรรมออนไลน์ นายกฯ ตอบผู้สื่อข่าวว่า เขาได้ให้นายวรภัคทำเรื่องชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว

 กระทั่งนายวรภัค ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวในช่วงเช้า (22 ต.ค.68) ระบุว่า ตนถูกใส่ร้ายป้ายสี และมีการแถลงข่าวอีกครั้งในช่วงบ่ายที่กระทรวงการคลัง พร้อมประกาศลาออกจาก รมช.คลัง โดยมีผลทันทีวันเดียวกัน

 แน่นอน, หลังจากนี้เป็นเรื่องของพยานหลักฐาน ของผู้มีอำนาจหน้าที่ในการปราบปราม “สแกมเมอร์” จะสืบสาวไปถึงหรือไม่

อีกด้านที่น่าสนใจไม่แพ้กัน กรณีสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU มีมติ 2 ใน 3 บรรจุวาระเร่งด่วนร่างข้อมติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตย และความมั่นคงของมนุษย์ ที่เสนอโดยรัฐสภาไทย และประเทศพันธมิตร 

เรื่องนี้ “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน เห็นว่า ผลมติที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา Inter-Parliamentary Union หรือ IPU ต่อร่างข้อมติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมองค์กรข้ามชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ และภัยคุกคามแบบผสมผสานต่อประชาธิปไตย และความมั่นคงของมนุษย์ นำเสนอโดยรัฐสภาไทย และประเทศพันธมิตร ถือเป็นการผลักดันยกระดับที่ฝ่ายนิติบัญญัติหยิบยกนำเสนอต่อปัญหาภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ต่อสมัชชาสหภาพรัฐสภาเป็นวาระจำเป็นเร่งด่วน มติเห็นชอบถล่มทลาย

ถือเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่รัฐสภาไทยนำเสนอร่างฯ แล้วได้รับการบรรจุจากสมัชชาสหภาพรัฐสภา แม้กัมพูชาจะไม่ได้เข้าร่วมก็ตาม เพื่อให้ทั่วโลกให้ความสนใจต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ ที่มีฐานองค์กรอาชญากรรมที่ตั้งถิ่นฐานในประเทศต่างๆ แต่สำหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบต่อแก๊งสแกมเมอร์ที่มีฐานจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้ทฤษฎีโลกล้อมไทยปราบแก๊งค์สแกมเมอร์

“ดร.ณัฐวุฒิ” ชี้ว่า แม้ระเบียบร่างการปราบปรามสแกมเมอร์ในการประชุมของสหภาพรัฐสภาหรือ IPU ไม่มีสภาพบังคับเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ แต่สมัชชาสหภาพรัฐสภารับบรรจุเป็นวาระเร่งด่วน ส่งผลให้ประเทศสมาชิกให้ความสำคัญต่อการปัญหาที่เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ ส่งผลให้ประเทศต่างๆหันมาสนใจต่อภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่มีผลต่อประชาชนในประเทศ

 “ดร.ณัฐวุฒิ” กล่าวด้วยว่า ในแง่มิติทางการเมือง การยกระดับปราบปรามแก๊งค์สแกมเมอร์มีผลต่อการเมือง เพราะมีนักการเมืองบางคนนำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนในประเทศ โดยใช้ฐานประเทศเพื่อนบ้านผ่านบัญชีม้ามาเป็น “ทุนเทา” นำไปผันแปรเป็น “ทุนการเมือง” เพื่อสะสมทุนไว้ใช้ในการเลือกตั้ง เพื่อขยายฐานอำนาจโดยใช้เงินในการซื้อเสียงเข้ามากุมอำนาจฝ่ายบริหาร

 ประเด็นสำคัญ ที่ “ดร.ณัฐวุฒิ” ชี้ให้เห็นก็คือ เรื่อง “ทุนเทา” และ “ทุนการเมือง” ทำให้ผู้สื่อข่าวสหรัฐอเมริกาออกมาเปิดเผยรายชื่อนักการเมืองไทยที่พัวพัน โดยมีนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย....

 นั่นเท่ากับเป็นสัญญาณว่า โลกสนับสนุนไทยในการรบกับขบวนการสแกมเมอร์ แต่โลกก็ไม่อนุญาตให้ไทย หมกเม็ด “นักการเมืองสีเทา” ใต้ปีกอำนาจอยู่อย่างลอยนวล โดยที่ไม่จัดการอะไร และยังคงเป็นต้นตอใหญ่ของปัญหา อย่างที่เป็นอยู่

 และนั่นอาจหมายถึง “วรภัค” จะไม่ใช่รายสุดท้าย ที่โลกเปิดโปงในการปราบปรามสแกมเมอร์ หรือไม่?