กรมท่าอากาศยาน ลุยประมูลเทอร์มินัลนราธิวาส 28 ก.ย.นี้ ดันสนามบินนานาชาติ

กรมท่าอากาศยาน ลุยประมูลเทอร์มินัลนราธิวาส 28 ก.ย.นี้ ดันสนามบินนานาชาติ

กรมท่าอากาศยานเปิดประมูลสร้างเทอร์มินัลสนามบินนราธิวาส 800 ล้านบาท จ่อยื่นข้อเสนอ 28 ก.ย.นี้ ลั่นพลิกวิกฤติโควิด เพิ่มขีดความสามารถ พร้อมกางแผนผุดสนามบินใหม่ ขยายชุมพร - ระนอง หนุนเขตเศรษฐกิจภาคใต้ SEZ คาดเดินหน้าปี 2566

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทย.อยู่ระหว่างเปิดขายซองเอกสารประกวดราคาในโครงการงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร (เทอร์มินัล) หลังใหม่และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ท่าอากาศยานนราธิวาส วงเงินงบประมาณราว 800 ล้านบาท ซึ่งกำหนดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันที่ 28 ก.ย.นี้ ซึ่ง ทย.จะทำการเปิดซองพิจารณาข้อเสนอ และประกาศเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาในวันเดียวกัน

สำหรับ โครงการก่อสร้างเทอร์มินัลหลังใหม่นี้ จะเป็นการก่อสร้างอาคาร 2 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 1.2 หมื่นตารางเมตร เชื่อมต่อกับอาคารที่พักผู้โดยสารหลังเดิม รวมทั้งจะปรับปรุงอาคารที่พักหลังเดิมเป็นสำนักงานท่าอากาศยานและพื้นที่รองรับผู้โดยสารในช่วงพิธีฮัจญ์ พื้นที่ใช้สอบราว 3 พันตารางเมตร นอกจากนี้จะก่อสร้างอาคารประกอบอื่นๆ เช่น งานต่อเติมหลังคาอาคารเอนกประสงค์ เพื่อรองรับผู้มาประกอบพิธีฮัจญ์ อาคารห้องน้ำ อาคารจุดตรวจค้นหน้าท่าอากาศยาน งานถนนโดยรอบอาคาร เป็นต้น

“ในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 กรมท่าอากาศยานเราใช้วิกฤติเหล่านี้ ในช่วงที่มีผู้โดยสารใช้บริการลดลง เพื่อเร่งปรับปรุงศักยภาพของท่าอากาศยาน ปรับปรุงมาตรฐาน เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่คั่งค้างมาในปี 2563 นำมาเร่งประกวดราคาในปีนี้ ก่อนที่จะเริ่มงานจ้างศึกษาสนามบินแห่งใหม่ในปีหน้า”

สำหรับท่าอากาศยานนราธิวาสเป็นท่าอากาศยานที่มีความสำคัญในการเชื่อมโยงจังหวัดชายแดนสู่ส่วนกลางหรือสู่โลก นอกจากใช้ในการให้บริการผู้โดยสารทั่วไปแล้ว ยังเป็นท่าอากาศยานเพื่อให้บริการพี่น้องชาวมุสลิมเดินทางจากประเทศไทยไปประกอบพิธีฮัจญ์ทุกๆ ปี แต่ปัจจุบันอาคารที่พักผู้โดยสารมีสภาพเก่าทรุดโทรม เนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังขาดสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับผู้มารับ - ส่ง ในช่วงพิธีฮัจญ์

อย่างไรก็ดี ทย.จะพัฒนาเทอร์มินัลหลังใหม่นี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารมากขึ้น และผลักดันให้ท่าอากาศยานนราธิวาสเป็นท่าอากาศยานนานาชาติ สามารถรองรับเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้ไม่น้อยกว่า 600 คนต่อชั่วโมง หรือประมาณ 1.7 ล้านคนต่อปี โดยเทอร์มินัลหลังใหม่นี้ จะให้บริการพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานสากล มีการตกแต่งสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เป็นต้น

นายอภิรัฐ กล่าวด้วยว่า หลังจากการผลักดันแผนลงทุนในปี 2564 แล้วเสร็จ หลังจากนี้ ทย.จะมุ่งเน้นลงทุนเพื่อพัฒนามาตรฐานของท่าอากาศยานให้เป็นระดับสากล หลังจากนั้นในปี 2565 มีแผนจ้างศึกษาพัฒนาท่าอากาศยานแห่งใหม่ อาทิ ท่าอากาศยานบึงกาฬ และท่าอากาศยานมุกดาหาร รวมไปถึงขยายท่าอากาศยานชุมพร และท่าอากาศยานระนอง เพื่อรองรับการขยายตัวของเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ (SEZ) ซึ่งคาดว่าโครงการเหล่านี้จะเริ่มลงทุนในปี 2566