'ยุทธพงศ์' อัด ทร. ตัดต่อรูป 'สีจิ้นผิง' ลงนามซื้อ 'เรือดำน้ำ'

'ยุทธพงศ์' อัด ทร. ตัดต่อรูป 'สีจิ้นผิง' ลงนามซื้อ 'เรือดำน้ำ'

'ยุทธพงศ์' เปิดทุจริตจีทูจีเรือดำน้ำเก๊ อัดทัพเรือแอบอ้างนำรูป 'สีจิ้นผิง' ตัดต่อกับภาพลงนามซื้อเรือดำน้ำ บี้ 'ประยุทธ์' ตอบทำไมต้องจ่ายแวต 3 พันล้านทั้งที่ได้ยกเว้น

2 ส.ค.2564 เวลา 17.00 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตนจะอภิปรายการทุจริตจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีทูจีเก๊ เป็นจีทูจีเจี๊ยะท่ามกลางความอดอยากหิวโหยของประชาชนในสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ 3 ลำเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์1และ2 ซื้อแล้ว 1 ลำตั้งแต่ปี 60-66 ส่วนลำที่ 2-3 ยังไม่ได้ซื้อเพราะพรรค พท.ค้านเอาไว้ นอกจากเรือดำน้ำยังมีโครงการอื่นๆ เช่น โรงซ่อมบำรุง ท่าจอดเรือ อาคารทดสอบและคลังอาวุธปล่อยนำวิถี เรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ เป็นต้น รวม 44,222 ล้านบาทถือเป็นโครงการมูลค่าใหญ่ที่สุดของประเทศตั้งแต่จัดซื้อมา โครงการจัดซื้อผูกพันยาวนาน สร้างหนี้ให้ประเทศ

ขณะที่พี่น้องตนในต่างจังหวัดป่วยจากโควิด ไม่มีเตียงรักษา ประชาชนตกงาน ไม่มีเงินจะช่วย ท่านใจดำมาก ทรยศประชาชน บังอาจทำจีทูจีเก๊กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 โดย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร.ทำจดหมายถึงนายสูจ้านปิน รองประธานองค์กรบริหารงานของรัฐด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมเพื่อการป้องกันประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีนหรือแซสตินเมื่อวันที่ 24 ก.ย.63 โดยขอให้เร่งส่งตัวแทนมาลงนามสั่งซื้อก่อน 30 ก.ย.63 ก่อนที่ พล.ร.อ.ลือชัยจะเกษียณ 

ดังนั้นกองทัพเรือไม่ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาลจีน แล้วจะเป็นจีทูจีจริงได้อย่างไรนายยุทธพงศ์ อภิปรายว่า ส่วนกรณีการจัดซื้อเรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำหรือเรือ LPD แบบจีทูจี มูลค่า 6,200 ล้านบาท พล.ร.อ.ลือชัยก็ทำจดหมายถึงนายสูจ้านปินขอความอนุเคราะห์ให้กองทัพเรือจีนติดระบบอำนวยการรบให้เพื่อประสิทธิภาพในการซ้อมรบร่วมกัน การไปร้องขอดังกล่าวเหมือนไปเอาเรือมาก่อน ซื้อแบบขาดแผนงบประมาณ ที่สำคัญเป็นการเสื่อมเสียเกียรติภูมิของประเทศและกองทัพเรืออย่างยิ่ง จากนั้นนายยุทธพงศ์ได้ฉายภาพการเซ็นสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ

โดยพบข้อพิรุธที่กองทัพเรือไปแอบอ้างนำรูปประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมาตัดต่อกับภาพพิธีลงนามสัญญาซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 ระหว่างกองทัพเรือไทยกับบ.CSOC ขณะที่อีกภาพเป็นภาพงานพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีกองทัพเรือจีน ซึ่งทั้ง 2 ภาพไม่ได้มีความเชื่อมโยงและเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นนายยุทธพงศ์ อภิปรายว่า ส่วนที่ว่าจีทูเจี๊ยะเพราะกองทัพเรือต้องจ่ายแวต 7% จำนวน 820 ล้านบาทรวม 5 งวดงาน ประมาณ 3 พันล้านบาทแทน บ.CSOC และต้องจ่ายค่าเรือ 11,700 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ากองทัพเรือได้รับการยกเว้นภาษีตามประมวลกฎหมายรัษฎากรเกี่ยวกับการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ.36 ตามมาตรา 8 (1) เพราะเป็นการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ใช้ในราชการ

ดังนั้นทำไมถึงต้องจ่ายแวตถึง 5 งวดงานทั้งๆ ที่ไม่ต้องจ่าย นี่เป็นการทุจริตชัดเจน ส่วนโครงการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงเรือดำน้ำ มูลค่า 995 ล้านบาทก็เป็น บ.CSOC ซึ่งเป็นบริษัทเดิมที่ชนะประมูล ซึ่งเป็นเพียงบริษัทนายหน้าที่มาทำจีทูจีเก๊ เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดในการสร้างแล้ว ผู้รับเหมาไทยในอีสานบ้านตนหรือกรมโยธาฯ ก็ทำงานแบบนี้ได้ นอกจากนี้มีโครงการก่อสร้างห้องส้วม 2 หลัง มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท นี่เราต้องให้บริษัทจีนเข้ามาสร้างห้องน้ำให้แล้วหรือ ราคาก็แพงกว่าทาวน์เฮาส์แถวบ้านตนอีก อย่างไรก็ตาม บริษัท CSOC มีความเชื่อมโยงกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทนี้บริจาคเงินให้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อของ พล.อ.ประวิตร 2 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แปลกใจที่ พล.อ.ประวิตรซึ่งเป็นทหารบก ทำไมต้องซื้อเรือดำน้ำด้วย ขอให้ พล.อ.ประวิตรที่เป็นบิดาแห่งเรือดำน้ำมาตอบแทน หากตอบไม่ได้ก็ไม่ควรเป็นนายกฯ แทน พล.อ.ประยุทธ์ เห็นมีข่าวลือรับนู่นรับนี่วุ่นไปหมด

คำถามที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องตอบ คือทำไมต้องจ่ายแวต หรือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนในภายหลัง โดย บ.CSOC สามารถไปขอรับแวตคืนได้ ถือเป็นการทุจริตเรือดำน้ำครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นจีทูเจี๊ยะถึง 3 พันล้าน รัฐบาลไทยร่วมมือกับต่างชาติโกงเงินภาษีประชาชน 3 พันล้านฟรีๆ ท่านใจดำมาก พล.อ.ประยุทธ์บริหารราชการโดยไม่สุจริต มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริตต่อหน้าที่ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน ไม่เห็นแก่ความทุกข์ยากของประชาชน ไม่ควรเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป ประยุทธ์เก็ทเอาท์” นายยุทธพงศ์ ระบุ