‘ธรรมนัส’ เจ็บแต่ไม่จบ ? ‘ปรับครม.’ เงื่อนไขล้มกระดาน

‘ธรรมนัส’ เจ็บแต่ไม่จบ ?  ‘ปรับครม.’ เงื่อนไขล้มกระดาน

ฉากต่อไป อาจได้เห็นเกมกดดันอย่างหนักจนนำไปสู่การเซ็ตซีโร่ โหวตล้ม "นายกรัฐมนตรี" กลางสภา

ในที่สุดคลื่นใต้น้ำที่พรรคพลังประชารัฐพยายามต้านไว้ก็เอาไม่อยู่ ผลสืบเนื่องมาจากบรรดาลูกพรรคที่กัดฟันทนกับการบริหารของ “2 .” พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และบิ๊กป๊อกพล..อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มานาน

โดยเฉพาะการดึงโควตามท.1” เอาไว้กับตัว ไม่ตอบสนองฝ่ายการเมือง จนกลายเป็นอุปสรรคปัญหาในการทำพื้นที่อย่างหนัก ..เขตจะของบประมาณ ขอโครงการลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านก็ถูกหมางเมิน คลื่นใต้น้ำใน พปชร.จึงก่อตัวเงียบๆ มาตั้งแต่ต้น

หลายคนสะท้อนความรู้สึกอึดอัดผ่านบิ๊กป้อมพี่ใหญ่ 3 . พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค รวมถึง ..ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค มาตลอดว่า หากเดินกันไปอย่างนี้ เลือกตั้งรอบหน้าจะลำบาก

ลำพังจะถือธงนำ ดัน พล..ประยุทธ์ เป็นจุดขายเหมือนเลือกตั้งครั้งก่อน สถานการณ์หลายอย่างก็เปลี่ยนไปไกลแล้ว

ทุกกลุ่มการเมืองในพลังประชารัฐ ต่างเห็นตรงกัน หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่เป็นผลดีจึงมีความพยายามเดินเกมกดดันให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาโดยตลอด

โดยเฉพาะกลุ่มรัฐมนตรีช่วย “4 .” ที่มี ..ธรรมนัส เป็นหัวขบวน ซึ่งกลุ่มนี้ถูกมองว่า คาดหวังจะอัพเกรดขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการ โดยในรายของ ..ธรรมนัส ถูกจับตาว่า จ้องเก้าอี้มท.1” หรือ รมว.มหาดไทย เป็นเป้าหมายลำดับต้นๆ และยังได้รับเสียงเชียร์จาก ..ในกลุ่มอย่างล้นหลาม

ทว่าการปรับครม.” ของนายกฯ ครั้งที่ผ่านๆ มา ไม่ให้น้ำหนักกับกลุ่ม 4 . เท่าที่ควร ตรงนี้จึงเป็นอีกความไม่พอใจของนักการเมือง ที่พุ่งเป้าไปยังพล..ประยุทธ์ เต็มๆ

นาทีนี้ จึงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของ พล..ประยุทธ์ บนกระดานการเมือง นอกจากจะถูกฝ่ายค้านรุมสับในศึกซักฟอกแล้ว ม็อบนอกสภาก็กำลังก่อตัวขับไล่ หนำซ้ำยังต้องเจอเผชิญเกมการเมืองในพลังประชารัฐ บีบให้ปรับท่าทีตอบสนองฝ่ายการเมือง

คำให้สัมภาษณ์ขึงขังของนายกฯ ประยุทธ์ ถึงกระแสกดดันจากคนในพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันว่า ไม่ปรับครม. และเรื่องยุบสภาไม่อยู่ในสมอง พร้อมทั้งตอบโต้ใครบางคน ที่อยู่เบื้องหลังแผนโหวตคว่ำนายกฯ ในสภา เหน็บว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ และยังซัดตรงๆ ถึงคนที่ปล่อยข่าวแอบอ้างเบื้องสูง โยงกับการเปลี่ยนตัวนายกฯ

ท่าทีเช่นนี้ ยิ่งทำให้สถานการณ์ระหว่าง พล..ประยุทธ์ และนักเลือกตั้งที่หนุนขึ้นเป็นนายกฯ ยิ่งตึงเครียด

เมื่อ ..ธรรมนัส แถลงข่าวอย่างดุเดือดเลือดขึ้นหน้า ย้ำสิ่งที่พูดในที่ประชุมพรรค ทำนองว่ารัฐมนตรีของพรรคมีผลงานให้ ..ไปบอกชาวบ้านหรือไม่ เป็น ..มาเกือบ 3 ปีต้องถามว่าทำอะไรให้กับชาวบ้านบ้าง ..ตอบว่า ไม่มี มีหน้าที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเดียว

คนเป็นตัวแทนของประชาชนหากไม่สามารถเป็นที่พึ่งได้ ก็อย่าเป็นดีกว่าส.. แล้วถ้ามันไม่เคลียร์สำหรับตัวผมเอง ผมพร้อมกลับไปเป็นส..อย่างเดียว ผมไม่ได้สนใจอะไรด้วย..ธรรมนัส เดือด

ประโยคสำคัญคือ การที่ ..ธรรมนัส อ้างรัฐธรรมนูญ ที่ให้เอกสิทธิ์ ..พลังประชารัฐ ในการโหวตญัตติอภิปรายฯให้ดูเอา แล้วตัดสินใจเองก็ทำให้คอการเมืองได้ลุ้นระลึก

ต้องยอมรับว่า บริบทในขณะนี้ ..ธรรมนัส ถือว่ามีดุลอำนาจการเมืองเหนือกว่าพล..ประยุทธ์ สามารถคุมทิศทางการโหวตได้ ไม่เฉพาะพรรคเล็ก แต่ส..ในพลังประชารัฐจำนวนหนึ่งก็พร้อมปฏิบัติหากได้รับสัญญาณ

คะแนนเสียงโหวตไว้วางใจนายกฯ จึงเป็นตัวชี้ชะตาอนาคตการเมืองทั้งกระดานอย่างแท้จริง

หากส..พลังประชารัฐแค่ 10 เสียง รวมกับพรรคเล็กประมาณ 20 เสียง โหวตไม่ไว้วางใจพล..ประยุทธ์ และเมื่อรวมเสียงของฝ่ายค้าน โอกาสที่คะแนนเสียงของนายกฯจะได้ไม่ถึงครึ่งจึงเป็นไปได้สูง และจะกลายเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมืองครั้งสำคัญ ที่นายกฯ ถูกคว่ำกลางสภา

เรื่องนี้สอดรับกับความเคลื่อนไหวในพลังประชารัฐบางปีก ที่มีรายงานว่า คีย์แมนคนสำคัญเดินเกมแรงในเชิงกลยุทธ์ อัดเงินเต็มสูบต้องการล้มให้ได้ โดยมองข้ามเรื่องตำแหน่งไปแล้ว

แม้บางกลุ่มในพรรคที่เป็นขั้วตรงข้าม พยายามเดินเกมปกป้องนายกฯ อยู่ก็ตาม แต่อาจต้านทานขุมกำลังของคนกลุ่มแรกไม่ไหว

ปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานะนายกฯ ของ พล..ประยุทธ์ และครม.ตอนนี้ อยู่ในเงื้อมมือของ ..ธรรมนัส และฉากต่อไป อาจได้เห็นเกมกดดันอย่างหนักจนนำไปสู่การเซ็ตซีโร่ โหวตล้มครม.ประยุทธ์ เปิดทางให้สภาเลือกนายกฯ คนใหม่ ก็เป็นไปได้

นับเป็นจังหวะชี้ชะตาทางการเมืองครั้งสำคัญของ พล..ประยุทธ์ บนทางสองแพร่งว่าจะอยู่หรือไป ในเมื่อนักเลือกตั้งยังต้องเดินหน้า และอยากทิ้งทหารไว้ข้างหลัง