ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง (30 ส.ค.64)

ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง (30 ส.ค.64)

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องหลังจากยืนเหนือ 1,600 จุด มีแรงซื้อเข้ามามากในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารและ ICT จากที่คาดว่าศบค. มีการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ให้เปิดห้าง และร้านอาหารได้

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมเฟดประจำปีในคืนวันนี้ ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดการลดขนาด QE ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,611.20 จุด +9.29 จุด +0.58% มูลค่าการซื้อขาย 95,446 ลบ.ต่างชาติ +6,002.23 ลบ. TFEX +6,447 สัญญา ตราสารหนี้ -1,515.44 ลบ.


ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 242.68 จุด +0.69% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮเป็นวันที่ 4 ในสัปดาห์นี้ DJIA +1% S&P500 +1.5% Nasdaq +2.8% ขานรับ FED ไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแม้ปรับลดวงเงิน QE ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม
+ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ +2% ปิดที่ 68.74 ดอลลาร์/บาร์เรล +10.6% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันตึงตัวจากการที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งหยุดผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกก่อนที่พายุเฮอริเคนจะพัดถล่มในช่วงสุดสัปดาห์นี้
+ สธ.เผยอัตราครองเตียงผู้ป่วยเหลือง-เขียวในกทม.-ปริมณฑลมีแนวโน้มลดลง
+ กทม.ผ่อนคลายล็อกดาวน์ ให้นั่งกินในร้าน ห้างและคอมมูนิตี้มอลล์เปิดถึง 2 ทุ่มเริ่ม 1 ก.ย.
+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 15,972 ราย ชะลอตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต 256 ราย รักษาหาย 17,281ราย

ปัจจัยลบ

- งานวิจัยของอังกฤษระบุว่า ผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน มากกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนของแอสตร้าเซเนก้าหรือวัคซีนของไฟเซอร์
- EIU เปิดเผยรายงานระบุว่า GDP ของโลกอาจเสียหายระดับล้านล้านดอลลาร์เพราะความล่าช้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยประเทศกำลังพัฒนาจะเสียหายหนักที่สุด เนื่องจากความไม่เท่าเทียมของการฉีด
- สหรัฐโจมตีกลุ่ม ISIS ในกรุงคาบูลระลอกสอง สังหารมือวางระเบิดสนามบินได้ 1 ราย
- คาร์ม๊อบนัดรวมตัวอีกคร้ง 2 ก.ย. พร้อมเรียกร้องส.ส.ร่วมมือขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์
- นิด้าโพลเผยส่วนใหญ่มองมาตรการล็อกดาวน์ไม่ประสบความสำเร็จชี้ว่าควรทำต่อให้เข้มข้นขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยมีแรงหนุนจากการที่ ศบค. มีผ่อนคลายล็อกดาวน์บางส่วน ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้น หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,630 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้น Reopening Play : กลุ่มโรงแรม - MINT ERW CENTEL AWC SHR กลุ่มขนส่ง - BEM BTS
กลุ่มห้างสรรพสินค้า - CPN CRC MBK กลุ่มร้านอาหาร - AU M ZEN กลุ่มบริการ – SPA MAJOR กลุ่มค้าปลีก - CPALL BJC MAKRO
• FTSE Rebalance Large Cap Index หุ้นเข้า BBL, KBANK หุ้นออก BBL-F, KBANK-F , AWC, BJC, DIF : Mid Cap Index หุ้นเข้า AWC, BJC, DIF หุ้นออก ไม่มี : Small Cap Index หุ้นเข้า : JMART, STARK หุ้นออก - FTREIT
• ส่งออกเดือน ก.ค. ขยายตัว NER TWPC UVAN TVO PDJ

หุ้นรายงานพิเศษ

                                 MICRO - มุมมองบวกจาก Potential Growth

                             (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 11.00 บาท)

163029914550

•2Q64 มีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท +51%YoY -2%QoQ เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยรับเติบโตตามพอร์ตสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมจากประกันรถและคุ้มครองวงเงิน ไตรมาสนี้บริษัทมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและการตัดหนี้สูญ (ECL) เพิ่มขึ้นจากการด้อยค่าของลูกหนี้และการตัดหนี้สูญส่งผลให้ credit cost ที่รวม Management Overlay ใน 2Q64 ปรับขึ้นสู่ 4.6% จาก 3.4% ในปี 63 อัตรากำไรสุทธิ 34.4% ปรับดีขึ้นจาก 30.8% ใน 2Q63 6M64 กำไรสุทธิ 101 ล้านบาท 62%YoY ฐานะการเงินแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วน D/E 0.77 เท่าเพิ่มขึ้นจาก 0.51 เท่า ณ ปลายปี 63 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 2.19 เท่า

•ผู้บริหารตั้งเเป้าพอร์ตสินเชื่อปี 64 เติบโต 30% ต่อปี มีแผนเปิดสาขาใหม่โดยเฉพาะโซนภาคตะวันออกปีละ 4 แห่งในปี 64-65 ต่อยอดธุรกิจนายหน้าประกันภัยและประกันชีวิตที่เพิ่งเริ่มดำเนินงาน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกเป็นหลักมีสัดส่วนกว่า 75% ด้านคุณภาพสินทรัพย์ผู้บริหารตั้งเป้าคุม %NPL ให้ต่ำกว่า 3% จาก 3.74% ณ ปลายมิ.ย. 64

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อศักยภาพในการเติบโตระยะยาว ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 30.5% ต่อปี Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 64เฉลี่ย 206 ล้านบาท เติบโต 52%YoY และเติบโตต่อเนื่องราว 35% เป็น 277 ล้านบาทในปี 65 แนวโน้มกำไร 3Q64 ฟื้น QoQ ราคาล่าสุดที่ลดลง 9% จากระยะ 3 เดือนที่ผ่านมาซื้อขายที่ PBV 4x สูงกว่ากลุ่มที่ 3.4x แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) BTS-JMART ( ฺBloomberg Consensus 12.10 , 47.50 บาท) “เจ มาร์ท” ปิดดีลกลุ่ม “บีทีเอส” บริษัท วีจีไอ และยู ซิตี้ ใส่เงินเพิ่มทุน JMART กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ถือหุ้นรวม 24.9% รองรับการขยายธุรกิจร่วมกันในอนาคต ขณะที่ U ใส่เงินเพิ่มทุน SINGER ดันฐานทุนเพิ่ม 7.2 พันล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) IRPC ( ฺBloomberg Consensus 4.20 บาท) “ไออาร์พีซี” จ่อปิดดีลลงทุนโรงงานถุงมือยางสังเคราะห์ภายในปีนี้ ต่อยอดธุรกิจเมกะเทรนด์ด้านธุรกิจสุขภาพ เผยมีดีลเจรจา M&A อีก 2-3 โครงการทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ทิศทางยอดขายปีนี้ยังเติบโต พร้อมเร่งปรับแผนลงทุน 5 ปี ตั้งเป้าอีบิทด้าจากธุรกิจใหม่แตะ 25% ภายในปี 68 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) AS ( ฺBloomberg Consensus 20.10 บาท) มองผลงานไตรมาส 3/2564 โดดเด่น ตามการเปิดตัวเกมใหม่ที่เพิ่ม พร้อมเดินหน้าอัพเดตคอนเทนต์เกมเดิม หลังรักษาฐาน-เพิ่มรายได้ เล็งขยายตลาดเวียดนาม-อินโดนีเซียต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15-20% เข้าเป้า สัดส่วนเกมโมบายสิ้นปีนี้แตะกว่า 35% ลุยเดินหน้าในการหาเกมใหม่ๆ เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GGC ( ฺBloomberg Consensus 11.00 บาท) “GGC” มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่อง รับปัจจัยบวกราคาราคาน้ำมันปาล์ม (CPO) ทรงตัวสูง 37 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่สัญญาณดีมานด์น้ำมันฟื้นตัวชัดเจน เตรียมลุยโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์เฟส 2 ป้อนระบบสาธารณูปโภคโรงงาน PLA ของเนเชอร์เวิร์คส์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตา

ในประเทศ

30 ส.ค. สศอ.แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

31 ส.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ฝากแปะปัจจัยที่ต้องจับตา ในประเทศ

31 ส.ค.-3 ก.ย. อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ลงมติ 4 ก.ย.64

ต่างประเทศ

30 ส.ค. อียูรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

           สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนก.ค. ดัชนีการผลิตเดือนส.ค. จากเฟดดัลลัส

31 ส.ค. จีนรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนส.ค.

            สหรัฐ เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.

1 ก.ย. จีนรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.จากไฉซิน

          สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.จาก ADP ดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนส.ค. ดัชนีภาคการผลิตเดือนส.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

2 ก.ย. สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ค. ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค.