AOT - ซื้อ (27 ส.ค. 64)

AOT - ซื้อ (27 ส.ค. 64)

เผชิญพายุก่อนพบแสงสว่าง

Event

ผลประกอบการ 9M64 (ตุลาคม 63-มีนาคม 64), ปรับลดประมาณการปี FY64-65 และราคาเป้าหมาย

lmpact

ผลประกอบการ 9M64 อ่อนแอกว่าคาด

ก่อนหน้านี้ บริษัทรายงานขาดทุนสุทธิงวด 3Q64 เท่ากับ 4.08 พันล้านบาท (แย่ลงจากขาดทุน 2.93 พันล้านบาทงวด 3Q63 และ 2.64 พันล้านบาทงวด 2Q64 โดยในช่วง 9M64 AOT รายงานขาดทุนสุทธิ 1,12 หมื่นล้านบาท ซึงลดลงอย่างมากจากที่เคยมีกำไรสุทธิ 8 พันล้านบาทในช่วง 9M63 สำหรับงวด
9M64 บริษัททำรายได้เพียง 5.62 พันล้านบาท (-80.8% YoY) ขณะที่ EBIT margin ติดลบ 223.7% เทียบกับ 29.6% ในช่วง 9M63 ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่อ่อนแอของ AOT อย่างต่อเนื่องในช่วง 9M64 เนื่องจาก มีข้อจำกัดในการเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 รวมทั้งผลกระทบจากมาตรการให้ความช่วยเหลือทั้งสายการบิน และผู้ประกอบการที่เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่สนามบินทั้งหกแห่งของ AOT ในช่วงโรคระบาด ส่งผลให้ AOT มีรายได้ที่ลดลงจากทั้งส่วนที่มาจากสนามบิน และธุรกิจพื้นที่เชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ รายได้บริษัทในช่วง 9M64 มาจากส่วนของสนามบิน 35% และมาจากพื้นที่
เชิงพาณิชย์ 65% (เทียบกับ 54%:46% ในช่วง 9M63)

ปรับประมาณการ: คาดว่าจะขาดทุนมากขึ้นใน FY64F และจะมีกำไรลดลงในปี FY65F

เมื่ออิงจากสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ของ KGI สำหรับปี FY64-65F เราคาดว่าผลประกอบการของ AOT จะถูกกระทบจากทั้งรายได้และอัตรากำไรที่ลดลงลงจากทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และรายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวกับการบินและไม่เกี่ยวกับการบินในปี FY64-65F ทั้งนี้ การที่ COVID-19 กลับมา
ระบาดระลอกสาม จะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างชาติฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ตาม เรายังคาดว่าผลประกอบการของ AOT จะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ปี FY65F และจะกลับมาอย่างมีนัยสำคัญในปี FY66F ดังนั้น เราจึงปรับลดประมาณการปี FY64F เป็นขาดทุนสุทธิ 15.9 พันล้านบาท (เดิมคาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 8.13 พันล้านบาท) ในขณะที่ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี FY65F ลงเหลือ 4.1 หมื่นล้านบาท (เดิม 11.9 หมื่นล้านบาท) เนื่องจาก i) เราปรับลดประมาณการรายได้ปี FY64-65F ลง 49.6% และ 11.8% จากการปรับลดสมมติฐานผู้โดยสารเที่ยวบินระหว่างประเทศ และ ii) ปรับลด EBIT margin ปี FY64-65F เป็น -240.0% (จากเดิม -70.0%) และ 20.0% (จากเดิม -35.0%)

แนวโน้มการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

เรายังคงมองว่า ผลประกอบการของ AOT จะฟื้นตัวขึ้นในอีกสองสามปีข้างหน้า โดยจะเริ่มเห็นการกลับมาเปิดพรมแดนบางส่วนภายใน 4Q64

Valuation & Action

เราจะคาดว่า AOT จะแสดงผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ที่สุดในปี FY64F ก่อนที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี FY65F ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี FY65 ใหม่ที่ 74.50 บาท (ใช้ WACC ที่ 9%; TG ที่ 3%) จากเดิมที่ 78.50 บาท

Risks

COVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจถดถอย และปัญหาความไม่สงบทางการเมืองของไทย