เปิดโผ 'สินค้าไทย' ขายดีบน 'eBay'

เปิดโผ 'สินค้าไทย' ขายดีบน 'eBay'

‘eBay’ ชี้โควิดเขย่าดีมานด์อีคอมเมิร์ซ สินค้าไลฟ์สไตล์ สุขภาพ ยานยนต์ ความงาม ไอที กระแสแรง สินค้าไทยโดดเด่น หลายหมวดเป็นที่ต้องการของตลาดใหญ่ระดับโลก ล่าสุดดันแคมเปญใหม่หนุนผู้ค้าคว้าโอกาสทำเงินเวทีการค้าข้ามแดน

นางสาวรินทร์ลิตา ศรีโรจนภิญโญ หัวหน้าฝ่ายการตลาด อีเบย์ ประเทศไทย กล่าวว่า วิกฤติโควิด-19 ผลักดันให้ตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกเติบโตได้แบบทวีคูณ โดย 3 เทรนด์ที่มาแรง คือ การเติบโตของสินค้าเชิงไลฟ์สไตล์และสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่น ของเล่น งานอดิเรก อุปกรณ์เกม ยานยนต์ และของสะสมแนวลักซ์ชัวรี่

ที่น่าสนใจผู้ใช้งานนิยมเลือกการจัดส่งแบบด่วนพิเศษ โดยยอมที่จะจ่ายค่าบริการเพิ่มเพื่อความเร็วที่เพิ่มขึ้น และอีกเทรนด์ที่มาแรงคือโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ของสินค้ากลุ่มไอที

สำหรับ eBay ช่วงไตรมาสที่สองของปี 2564 มีผู้ซื้อทั่วโลกมากกว่า 159 ล้านคน ผู้ขายกว่า 19 ล้านคน จำนวนสินค้ามากกว่า 1,500 ล้านรายการ รวมมียอดการใช้จ่ายมากกว่า 22,100 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 730,000 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าที่กำลังติดเทรนด์ขายดีได้แก่ กลุ่มอะไหล่ยนต์ อุปกรณ์วีดิโอเกม รองเท้าผ้าใบ และของสะสมลักซ์ชัวรี

162989591264

eBay พบด้วยว่า ความต้องการสินค้าเฉพาะกลุ่มเพิ่มสูงขึ้น ที่ขายดีและมีมูลค่าสูง คือ การ์ดสะสม “Trading Cards” เช่น การ์ดกีฬา การ์ดเกม และการ์ดโปเกมอน ปี 2563 ทำยอดขายไปแล้วมากกว่า 45 ล้านใบ ด้วยอัตราการขายออกสูงถึงกว่า 90 ใบในหนึ่งนาที

ส่วนผู้ค้าไทยยังสามารถขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง และเห็นโอกาสที่สามารถตอบรับความต้องการของตลาดได้ โดย 3 กลุ่มสินค้าเด่นที่ขายดีมาต่อเนื่องในตลาดขนาดใหญ่อย่างสหรัฐ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลีย คือ จิวเวอรี่ เพชรพลอย เครื่องประดับ นาฬิกาหรู และที่กำลังมาแรงคือ อะไหล่ยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ รถบรรทุก มอเตอร์ไซค์ และล่าสุด สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม อาหารเสริม เครื่องสำอาง

เมื่อลองศึกษาให้ลึกลงไปในปี 2564 เห็นเทรนด์ว่า 5 กลุ่มสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วได้แก่ 1.อะไหล่รถจักรยานยนต์ 2.จิวเวลรีแบบมีพลอยประดับ หรือมีตัวเรือนเป็นเนื้อเงิน เนื้อทองคำ 3.เพชรแบบเป็นเม็ดที่มีใบรับรอง 4.ผลิตภัณฑ์ดูแลและจัดแต่งเส้นผม และ 5.ต้นไม้ตกแต่งบ้าน โดยยอดขายมีอัตราการเติบโตมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน

162989597358

เธอกล่าวว่า วาง 3 กลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทย ประกอบด้วย “Customer Fucus” เน้นโครงการสนับสนุนผู้ขายและอีโคซิสเต็มพาร์ทเนอร์ซึ่งต่างกับกลยุทธ์ในต่างประเทศที่เน้นเจาะกลุ่มผู้ซื้อเป็นหลัก “Catagory Focus” ส่งเสริมการขายกลุ่มสินค้าเติบโตสูง พร้อมด้วย “New Payment” ด้วย “eBay MP” ระบบชำระเงินแบบใหม่แทนเพย์พาวที่เคยใช้อยู่เดิม

นอกจากนี้ ปีนี้มีแผนสนับสนุนเพื่อผลักดันการเติบโตของผู้ประกอบการไทย ภายใต้แคมเปญใหม่ “eBay NextGen” เพื่อผลักให้ธุรกิจไทยเติบโตแบบก้าวกระโดดในเวทีการค้าระดับโลก โดยครั้งนี้ได้มอบสิทธิพิเศษต่างๆ ให้กับเอสเอ็มอีที่ยังไม่เคยเปิดร้านกับอีเบย์ให้มาร่วมเป็นผู้ขายใหม่บนอีเบย์ดอทคอม (eBay.com)

5 ปีที่ผ่านมาจำนวนผู้ขายจากไทยเติบโตมากขึ้นตามลำดับ โดยมีทั้งผู้ขายรายใหม่และรายเก่าที่ทำรายได้ได้เพิ่มขึ้น ส่วนแผนการเข้ามาขยายตลาดภายในประเทศไทยยังต้องใช้เวลาพิจารณา เนื่องจากผู้ซื้อมีเพียงกลุ่มนักสะสมเป็นหลัก

พร้อมระบุว่า วิกฤติโควิดทำให้ผู้ค้าไทยต้องปรับตัวอย่างมากเรื่องโลจิสติกส์ เนื่องจากมีต้นทุนค่าจัดส่งที่สูงขึ้น ต้องมีการปรับแนวทางการตลาดโดยจัดขายสินค้าเป็นชุดเพื่อควบคุมต้นทุน มากกว่านั้นนำเครื่องมือไอทีมาปรับใช้เพื่อช่วยให้สามารถขยายตลาดไปได้กว้างขึ้น จับกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น

สำหรับกฎหมายภาษีอีเซอร์วิสที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ ทางอีเบย์ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนโยบายดังกล่าวแล้ว โดยเป็นนโยบายระดับโลกของบริษัทอยู่แล้วที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศที่เข้าไปทำตลาด