ศาลยกคำร้องขอประกัน ‘สาธิต’ คดีโกงแวต

ศาลยกคำร้องขอประกัน ‘สาธิต’ คดีโกงแวต

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง ‘สาธิต รังคสิริ’ คดีทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม เหตุจำเลยยังไม่ยื่นอุทธรณ์ มีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี

จากกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต นายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร และนายศุภกิจ หรือสิริพงศ์ ริยะการ หรือริยะการธีรโชติ อดีตสรรพากรพื้นที่ กทม. เขต 22 บางรัก และนายประสิทธิ์ อัญญโชติ จำเลยที่ 3 ถูกพิพากษาจำคุก 6 ปี 8 เดือน คดีร่วมกันทุจริตอนุมัติการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 25 บริษัทโดยมิชอบ เสียหายกว่า 3 พันล้านบาท โดยนายสาธิต และนายศุภกิจ ได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวนั้น

ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ เรื่องการขอปล่อยตัวชั่วคราวของนายสาธิต และนายศุภกิจ โดยในส่วนของนายสาธิต มีนางกาญจนา รังคสิริ เป็นผู้ประกัน โดยเสนอหลักทรัพย์เป็นเงินสด 8 แสนบาท ซึ่งเป็นหลักทรัพย์เดิมชั้นพิจารณา ส่วนนายศุภกิจ มีนางวราภรณ์ ริยะการ เป็นผู้ประกัน โดยเสนอหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน ราคาประเมิน 1,801,150 บาท เป็นหลักประกัน ซึ่งเป็นหลักทรัพย์เดิมชั้นพิจารณาเช่นกัน

ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดี ข้อหามีอัตราโทษสูง แม้จำเลยที่ 1 ให้การปฏิเสธ แต่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ตลอดชีวิตประกอบกับจำเลยที่ 1 ยังไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยที่ 1 จะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในระหว่างอุทธรณ์ให้ยกคำร้อง

สำหรับจำเลยที่ 2 ศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีข้อหามีอัตราโทษสูง แม้จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธ แต่ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ตลอดชีวิต ประกอบกับจำเลยที่ 2 ยังไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยที่ 2 จะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง

ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตนายสาธิต ในคดีร่วมกันทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากร มูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท พร้อมกันนี้มีคำสั่งให้อายัดทองคำแท่งจำนวน 77 แท่ง และทองคำหนัก 7,000 บาท

นอกจากนี้ นายสาธิตยังมีคดีร่ำรวยผิดปกติกว่า 700 ล้านบาท และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้แก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ทรัพย์สินของนายสาธิตตกเป็นของแผ่นดินอีกหลายรายการ รวมไปถึงทองคำแท่งหนัก 318 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท

นายสาธิตยังต้องรับผิดทางละเมิด กรณีที่คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงการคลัง มีมติให้ข้าราชการอย่างน้อย 14 ราย ชดใช้ความเสียหายกรณีดังกล่าว รวมวงเงินกว่า 4 พันล้านบาท โดยนายสาธิต นายศุภกิจ นายพายุ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวน