เปิดแผน'อพยพคน'ออกจากอัฟกานิสถาน

เปิดแผน'อพยพคน'ออกจากอัฟกานิสถาน

เปิดแผน'อพยพคน'ออกจากอัฟกานิสถาน ขณะกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ สั่งการให้ใช้เครื่องบินโดยสารของสายการบินพาณิชย์ของสหรัฐจำนวน 18 ลำจาก 6 สายการบิน รวมถึง ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และอเมริกันแอร์ไลน์ ขนส่งพลเมืองอเมริกันและชาวอัฟกันบางส่วนออกจากอัฟกานิสถาน

เปิดแผนอพยพคนจากอัฟกาฯ และจับตาศก.ยุคตาลีบันปกครอง ขณะที่การไม่มีเงินสกุลดอลลาร์เข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานหมายถึง ค่าเงินอัฟกานีที่จะดิ่งลงหนัก และราคาสินค้าและบริการที่จะพุ่งสูง พร้อมๆ กับสภาวะขาดแคลนที่จะตามมา

หนึ่งสัปดาห์หลังจากตาลีบันเข้ายึดครองอัฟกานิสถาน มีการอพยพคนออกจากประเทศนี้อย่างน้อย 28,000 คนแต่ก็ยังมีคนอีกหลายหมื่นคนที่ยังรอเดินทางออกจากประเทศนี้ที่กำลังเปลี่ยนผู้นำบริหารประเทศ

ประเทศที่มีการอพยพคนออกจากดินแดนนี้มากที่สุดน่าจะเป็นสหรัฐ ที่ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (22ส.ค.)อพยพประชาชนเพิ่มอีก 7,400 คนออกจากกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน แม้จะเกิดเหตุจลาจลที่สนามบินกรุงคาบูล หลังจากที่กลุ่มตาลิบันยึดครองอัฟกานิสถานได้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน

การอพยพประชาชนออกจากกรุงคาบูลส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่สนามบินแต่มีรายงานว่า กองทัพสหรัฐได้ส่งเฮลิคอปเตอร์สามลำไปช่วยเหลือชาวอเมริกันจำนวน 169 คนออกจากโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงคาบูลด้วย

162976488585

“แอนโทนี บลิงเคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์รายการ “ฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์” ว่า ตลอด1สัปดาห์ที่ผ่านมาได้อพยพประชาชนออกจากอัฟกานิสถานจำนวน 25,100 คนโดยใช้เครื่องบินบรรทุก60เที่ยวบิน และเมื่อรวมกับที่อพยพออกมาตั้งแต่ปลายเดือนก.ค. จะมียอดรวมทั้งสิ้น 30,000 คน โดยผู้อพยพทั้งหมดจะถูกนำไปส่งที่ค่ายผู้ลี้ภัยในตะวันออกกลางและยุโรป

ขณะที่“เจค ซุลลิแวน” ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นและเอ็นบีซี เมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐได้ทำข้อตกลงกับ 26 ประเทศในการขนย้ายพลเมืองอเมริกัน ชาวอัฟกันบางส่วน และพลเมืองของประเทศอื่น ๆ ออกจากอัฟกานิสถานไปส่งที่ฐานทัพอากาศของประเทศเพื่อนบ้านและในภูมิภาคอื่น ๆ พร้อมทั้งแจ้งไปยังกลุ่มตาลิบันให้รับทราบว่า หากมีชาวอเมริกันถูกกีดกันไม่ให้เข้าไปในสนามบินกรุงคาบูล ไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศ หรือการปฏิบัติภารกิจอพยพประชาชนของสหรัฐ ถูกขัดขวาง สหรัฐจะตอบโต้การกระทำนั้นทันที

ในส่วนของ“ลอยด์ ออสติน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ สั่งการให้ใช้เครื่องบินโดยสารของสายการบินพาณิชย์ของสหรัฐจำนวน 18 ลำจาก 6 สายการบิน รวมถึง ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และอเมริกันแอร์ไลน์ ขนส่งพลเมืองอเมริกันและชาวอัฟกันบางส่วนออกจากอัฟกานิสถาน

ถือเป็นครั้งที่สามในรอบ 30 ปีที่รัฐบาลสหรัฐ อนุมัติให้ใช้เครื่องบินเอกชนในกิจการทางทหาร หลังจากสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อปี 2533-2534 และสงครามในอิรักเมื่อปี 2545-2546

ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน สัญญาว่า สหรัฐจะยังคงนำส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้อัฟกานิสถาน แม้ตาลีบันจะเป็นผู้ปกครองประเทศอยู่ พร้อมย้ำว่าสหรัฐจะเดินหน้าสนับสนุนชาวอัฟกันและจะเดินหน้าแผนงานด้วยวิถีทางการทูต และอิทธิพลในประชาคมโลก และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อไป

แต่หลายคนก็สงสัยในคำพูดนี้ของประธานาธิบดีไบเดนว่าการที่สหรัฐและประเทศพันธมิตรถอนกำลังทหารของตนออกจากอัฟกานิสถานจนหมด บรรดาองค์กรสากลที่ให้ความช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งเป็นคนกลางประสานความช่วยเหลือจากนานาประเทศมาโดยตลอด จะทำงานต่อไปในอัฟกานิสถานอย่างไร

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต้) เปิดเผยว่า สนามบินคาบูลและพื้นที่โดยรอบมีผู้เสียชีวิตรวมกันกว่า 20 รายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคนจำนวนมากแห่เข้าพื้นที่เพื่อหนีกลุ่มตาลีบันซึ่งเข้ายึดกรุงคาบูลเมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา

“วิกฤติที่เกิดขึ้นนอกสนามบินคาบูลไม่ค่อยสู้ดีนัก เรามุ่งอพยพชาวต่างชาติทุกคนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้”เจ้าหน้าที่นาโต้ กล่าวและกองกำลังนาโต้พยายามเว้นระยะห่างจากพื้นที่รอบนอกสนามบินคาบูล เพื่อไม่ให้ปะทะกับกลุ่มตาลีบัน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา สนามบินคาบูลมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้สหรัฐและประเทศอื่นๆ เผชิญกับความยากลำบากในการอพยพพลเมืองของตนเองรวมถึงชาวอัฟกันบางส่วน

กลุ่มตาลีบันเข้ายึดกรุงคาบูลในวันที่ 15 ส.ค. หลังจากเข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของอัฟกานิสถานหลังจากการถอนกำลังทหารออกจากอัฟกานิสถานอย่างรวดเร็วของสหรัฐและนาโต้เริ่มขึ้นในเดือนพ.ค.

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อให้เกิดความหวาดกลัวว่า กลุ่มตาลีบันจะกลับมาใช้กฎหมายอิสลามอันเข้มงวดอย่างที่เคยใช้มาแล้วสมัยกลุ่มตาลีบันเรืองอำนาจเมื่อ 2 ทศวรรษก่อน

แต่การปกครองอัฟกานิสถานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โดย"อัจมาล อาห์มาดี" อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางอัฟกานิสถานที่ดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่เมื่อปี2562 จนกระทั่งลอบหนีออกจากประเทศสำเร็จเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน พยายามสื่อสารเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจอันย่ำแย่ของ อัฟกานิสถานผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์มาโดยตลอด และอธิบายว่า ธนาคารกลางอัฟกันไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนสำรองของประเทศได้ และการขนส่งเงินสกุลดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงระบบธนาคารของประเทศในการให้บริการลูกค้าที่ต้องการสกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากกว่าสกุลอัฟกานี ที่รัฐบาลเป็นผู้ออก ได้ถูกระงับไปเรียบร้อยแล้ว

การที่ไม่มีเงินสกุลดอลลาร์เข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของอัฟกานิสถานหมายถึง ค่าเงินอัฟกานีที่จะดิ่งลงหนัก และราคาสินค้าและบริการที่จะพุ่งสูง พร้อมๆ กับสภาวะขาดแคลนที่จะตามมา เนื่องจากความช่วยเหลือจากนานาชาติและการค้าระหว่างประเทศที่สะดุดลง

นอกจากนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจอัฟกันในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นอานิสงก์ของเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ และการขาดดุลการค้าอย่างหนัก เพราะผลพวงมาจากการที่แรงงานประมาณ 44% .oประเทศยังคงทำมาหากินในภาคการเกษตรที่ทำรายได้ต่ำ และประมาณ 60% ของครัวเรือนอัฟกันยังคงพึ่งพาการเกษตรในการเลี้ยงชีพ