ธ.ก.ส.เผยสินเชื่อภาคเกษตรQ1หดตัว30%

ธ.ก.ส.เผยสินเชื่อภาคเกษตรQ1หดตัว30%

ธ.ก.ส.เผยสินเชื่อภาคเกษตรไตรมาสแรกหดตัวถึง 30% ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ขณะที่ ประเมินภาพรวมหนี้เสียกรณีเลวร้ายอาจพุ่งถึง 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.86%

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ได้ส่งผลให้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารลดลง สะท้อนจากตัวเลขการปล่อยสินเชื่อในไตรมาสแรกที่หดตัวถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยปล่อยสินเชื่อได้เพียง 1.16 พันล้านบาท

ทั้งนี้ เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีบัญชีนี้ ตั้งเป้าเติบโตขึ้นจากปีบัญชีก่อนหน้า 6.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจำเป็นต้องดูจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้ยังมีภาพที่ไม่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในระดับใด ซึ่งบางสถาบันคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอาจติดลบ 1%ถึงขยายตัว 0%ขณะที่ กระทรวงการคลัง ประเมินล่าสุดว่า จะขยายตัว 1.3%

เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารก็พยายามปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อบรรเทาผลกระทบ เช่น การปล่อยสินเชื่อให้กับธุรกิจร้านอาหาร เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับธุรกิจนี้ ซึ่งร้านอาหาร ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนภาคการเกษตรในแง่ของวัตถุดิบที่ใช้ปรุงอาหาร

อย่างไรก็ดี ปีนี้เราต้องยอมรับว่า ทางธนาคารเน้นในเรื่องการดูแลคุณภาพสินเชื่อ มากกว่าการขยายตัวของสินเชื่อ สืบเนื่องมาจากผลของการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่ทำให้ลูกค้าสินเชื่อของธนาคารได้รับผลกระทบด้านรายได้ โดยธ.ก.ส.ก็ได้ทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ด้วยการพักหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย โดยขึ้นอยู่กับความสมัครใจของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งแบ่งเป็นกรณีที่ลูกค้าที่มีงวดการชำระหนี้แบบรายปีๆละครั้ง จะพักหนี้ให้1 ปี ส่วนกรณีลูกค้าที่ชำระหนี้เป็นรายเดือนจะพักหนี้ให้ 6 เดือน

สำหรับหนี้เสียของธนาคาร ณ สิ้นเดือนมิ.ย.นี้ อยู่ที่ 3.86%ของสินเชื่อคงค้างที่มีอยู่ 1.553 ล้านล้านบาท แต่ก็มีโอกาศที่หนี้เสียจะทะยานสูงขึ้นกว่านี้ หากพ้นจากระยะเวลาของโครงการพักชำระหนี้ไปแล้ว เพราะมีลูกค้าบางกลุ่มที่อาจไม่มีศักยภาพในการชำระหนี้ต่อ

“ธนาคารได้พยายามเข้าไปพุดคุยกับลูกค้าของธนาคารเพื่อให้ทราบถึงปัญหาและหาแนวทางแก้ไข โดยแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นสามกลุ่ม คือ ลูกค้ากลุ่มสีเขียว ถือเป็นลูกค้าที่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ตามปกติ ลูกค้ากลุ่มสีเหลือง เป็นกลุ่มที่อาจมีปัญหาในการชำระหนี้ และลูกค้ากลุ่มสีแดง เป็นลูกค้ากลุ่มที่มีปัญหาในการชำระหนี้”

ทั้งนี้ จากการสำรวจของธนาคาร พบว่า ราว 10%ของลูกค้าที่สำรวจ อยู่ในกลุ่มสีแดง ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้เป็นลูกค้าที่เป็นหนี้เสียอยู่แล้ว ส่วนลูกค้าที่ถูกสำรวจที่เหลือ เป็นกลุ่มลูกค้ากลุ่มเสีเหลืองและเขียว แต่สัดส่วนโน้มเอียงไปทางสีเหลืองมากกว่าสีเขียว

เขากล่าวว่า จากการคาดการณ์หนี้เสียของธนาคาร ณ สิ้นปีบัญชีนี้ หรือ ตั้งแต่เม.ย.2564 ถึง มี.ค.2565 คาดว่า จะอยู่ที่ 4%แต่กรณีที่เป็นWorst caseอาจทะยานขึ้นไปถึง 5%ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจว่าจะถดถอยมากกว่าที่คาดไว้หรือไม่

สำหรับโครงการพักทรัพย์พักหนี้ ซึ่งเป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยสามารถตีทรัพย์ชำระหนี้กับธนาคารเจ้าหนี้ได้ และมีเงื่อนไขให้ลูกหนี้ซื้อคืนทรัพย์นั้นได้ในภายหลัง สำหรับ ธ.ก.ส.นั้น มีลูกหนี้ที่เข้าเกณฑ์สามารถเข้าโครงการพักทรัพย์พักหนี้ได้ จำนวนประมาณ 2 หมื่นราย มีมูลหนี้รวม 1.8 หมื่นล้านบาท แต่มีลูกค้าที่ยื่นขอเข้าโครงการ เพียง 3 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวมกัน 2.64 พันล้านบาท