‘ยกระดับ’ สู้โควิด หยุดนิวไฮ ‘เสียชีวิต’

สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 วันที่ 18 ส.ค.2564 ภาพรวมยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดหลังพบผู้ติดเชื้อโควิด รายใหม่อีก 20,515 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมแล้ว 968,957 ราย ประเด็นสำคัญยอดผู้เสียชีวิตวันที่ 18 ส.ค.เพิ่มอีก 312 ราย ส่งผลยอดการเสียชีวิตรวม 8,285 ราย ทำอย่างไรที่จะหยุดยั้งหรือทำให้เกิดความสูญเสียแก่ชีวิตให้น้อยที่สุด

เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.64) นายกรัฐมนตรีโพสต์เฟซบุ๊คยอมรับว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงวันนี้ก็คือ ตัวเลขของผู้เสียชีวิต ที่แม้ว่าเราจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตที่ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยของทั่วโลก แต่ก็ยังมีบางวันที่ยังขึ้นสูงอยู่ และเราทุกคนไม่อยากให้มีใครเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขได้วิเคราะห์ว่า หากเราสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการล็อกดาวน์ได้มากกว่านี้ ก็จะสามารถลดยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตได้มากขึ้น นายกฯระบุว่าเป็นที่มาให้ที่ประชุม ศบค.มีมติให้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการออกไปจนถึงสิ้นเดือน เราเห็นว่าระยะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์นับจากนี้ จำเป็นต้องมีมาตรการเสริมให้เข้มข้นกว่าเดิมเพื่อให้มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุด

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าสัปดาห์หน้ามีแนวโน้มสูงที่ยอดผู้เสียชีวิตรวมเกิน 1 หมื่นราย ส่วนการติดเชื้อรวมจะเกิน 1 ล้านราย ทั้งๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากการล็อกดาวน์รอบใหม่ในพื้นที่จำเป็นผ่านมากกว่าครึ่งเดือน ขณะที่ยอดการเสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นจาก 100 เป็น 200 และ 300 ต่อวันตามลำดับ การที่ตัวเลขที่คาดว่าจะเกิน 1 หมื่นและ 1 ล้าน นอกจากตัวแปรตัวเลขคนไข้อาการหนักที่ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ที่ 1,155 ราย ที่มีอาการปอดอักเสบมีอาการน่าวิตกอยู่ที่ 5,458 ราย ยังมีอีกปัจจัยหากผู้ที่เกี่ยวข้องไม่กระตือรือร้นหรือไม่ระดมสรรพกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดออกมาช่วยกันแล้ว ความเสียหายข้างต้นอาจจะมาเร็วเกินคาด

ยังมีข่าวดีที่เป็นความหวังนั่นคือความเคลื่อนไหวของกระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เมื่อวานนี้ ได้มีคำสั่งให้ทุกจังหวัดใช้มาตรการป้องกันควบคุมพื้นที่ Bubble & Seal - Factory Sandbox ให้บริหารจัดการขยะติดเชื้อ เพิ่มเติมจาก 29 จังหวัดสีแดงเข้ม เป็นการสนับสนุนไม่ให้การติดเชื้อภายในโรงงานทั่วประเทศเพิ่มจำนวน โจทย์ก็คือทำอย่างไรให้หน่วยงานอื่นมีการขยับหรือยกระดับการทำงานแบบเข้มข้น นอกจากนี้ควรจะมีบทลงโทษหากพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐจงใจหย่อนยานหรือเอกชนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง

เรายังเห็นว่าการตั้งด่านสกัดการแพร่ระบาดของโควิดทุกวันนี้ หรือนับตั้งแต่ประกาศล็อกดาวน์รอบใหม่ ยังไม่มีความเข้มงวดเพียงพอในพื้นที่ล็อกดาวน์ โดยมีเพียงการตั้งเต็นท์กับโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่ตามถนนสายต่างๆ แต่อยู่ข้างทาง ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ กับผู้เดินทาง ที่สำคัญไม่มีการเรียกตรวจ ความหย่อนยานดังกล่าวนำไปสู่ความเสี่ยงของการแพร่ระบาดแบบปฏิเสธไม่ได้ ที่สำคัญเจ้าหน้าที่รัฐยังสามารถเบิกค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าตอบแทนในการปฏิบัติงานด้วยการนั่งเข้าเวร หมุนเวียนกันไป ทุกวัน