PLANB - ถือ (11 ส.ค.64)

PLANB - ถือ (11 ส.ค.64)

ผลประกอบการ 2Q64: อ่อนแอกว่าที่คาดไว้

Event

PLANB พลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 71 ล้านบาทใน 2Q64 (รวมการด้อยค่าสินทรัพย์ 29 ล้านบาท) จากที่เคยมีกำไรสุทธิ 37 ล้านบาทใน 1Q64 แต่ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิ 85 ล้านบาทใน 2Q63 โดยผลประกอบการออกมาแย่กว่าประมาณการของเรา และคาดการณ์ของตลาดซึ่งคาดว่าจะขาดทุนสุทธิ 33 - 41 ล้านบาท

Impact

ผลประกอบการหลักแย่ลง QoQ แต่ดีขึ้น YoY

หากไม่รวมรายการพิเศษ PLANB จะมีผลการดำเนินงานหลักที่ขาดทุน 42 ล้านบาท จากที่มีกำไร 37 ล้านบาทใน 1Q64 แต่ดีขึ้นจากที่ขาดทุน 85 ล้านบาทใน 2Q63 ทั้งนี้ผลการดำเนินหลักใน 2Q64 แย่กว่าประมาณการของเรา 29% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงกว่าที่คาดไว้ ถึงแม้ว่ารายได้ใน
2Q64 จะเพิ่มขึ้น 7% QoQ แต่ผลประกอบการ QoQ ยังถูกกดดันจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (+18% QoQ) รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น (+13% QoQ) ส่วนผลประกอบการที่ดีขึ้น YoY เป็น เพราะรายได้เพิ่มขึ้น 66% YoY เนื่องจาก i) อัตราการใช้งานสื่อเพิ่มขึ้นเป็น 42.8% จาก 25.8% ใน 2Q63 ซึ่งมีการใช้มาตรการล็อคดาวน์ และ ii) รายได้จากโครงการโอลิมปิก โตเกียว ซึ่งมีการรับรู้มาตั้งแต่ 4Q63

ผลการดำเนินงานหลักใน 3Q64 จะถูกกดดันจากอัตราการใช้สื่อที่ลดลง

เราคาดว่าผลการดำเนินงานหลักใน 3Q64 จะยังคงอ่อนแอเนื่องจาก i) คาดว่าการจับจ่ายใช้สอยจะลดลงซึ่งรวมถึงยอดซื้อสื่อโฆษณาด้วย โดยเฉพาะสื่อนอกบ้าน (OOH) เนื่องจากผู้คนหลีกเลี่ยงการออกจากเคหสถานในช่วงที่ COVID-19 ระบาดหนักตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน 2564 และ ii) คาดว่ารายได้จาก
โครงการโอลิมปิก โตเกียว จะยังทรงตัวใกล้กับไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 194 ล้านบาท เราคาดว่า PLANB จะพลิกกลับมามีกำไรอีกได้ตั้งแต่ 4Q64 เป็นต้นไป เพราะบริษัทน่าจะได้อานิสงส์จากอัตราการใช้สื่อที่เพิ่มขึ้น ตามสถานการณ์ COVID-19 ที่คาดจะคลี่คลายลง และผลจากปัจจัยฤดูกาลในช่วงปลายปี

คงประมาณการกำไรปี 2564-65 เอาไว้ตามเดิม

ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนหลัก 5 ล้านบาทในงวด 1H64 ในขณะที่เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรหลัก 102 ล้านบาทในปี 2564 แต่เรายังคงประมาณการกำไรปีนี้เอาไว้ตามเดิม เนื่องจากเราคาดว่ากำไรจะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งใน 4Q64 และคาดว่ากำไรจะเติบโตต่อเนื่องได้ต่อไปในปี 2565 โดยคาดจะมีกำไรหลัก 635 ล้านบาท (+523% YoY) จากรายได้ค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

Valuation and action

เรายังคงราคาเป้าหมายปี 2565 เอาไว้ที่ 6.10 บาท (PER ที่ 37.3 เท่า) เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” PLANB เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการจะอ่อนแอใน 3Q64 ในขณะที่คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565

Risks

รายได้จากสื่อ OOH ต่ำกว่าที่คาดไว้