BCPGไตรมาส2/64กำไรพุ่ง59% มั่นใจครึ่งปีหลังโตเหตุโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นCOD

BCPGไตรมาส2/64กำไรพุ่ง59% มั่นใจครึ่งปีหลังโตเหตุโรงไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นCOD

BCPG ไตรมาส2/64กำไรสุทธิ 565 ล้าน โต 59 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุ โรงไฟฟ้าพลังน้ำผลิตมากขึ้น-รับรู้กำไรโรงไฟฟ้าโซลาร์ 4โครงการในไทยเต็มปี คาดครึ่งหลังโตต่อเนื่อง จากโรงไฟฟ้าโซลาร์ญี่ปุ่นCOD เตรียมออกกรีนบอนด์ไตรมาส3/64

 นายบัณฑิต สะเพียรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีซีพีจี จำกัด  (มหาชน)  เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 2/64 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2564) มีกำไรสุทธิ 565ล้านบาท เพิ่มขี้นร้อยละ 59 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 355 ล้านบาท มีรายได้รวม 1,088ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจาก โรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3A และ Nam San 3B ใน สปป.ลาว ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น และรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย กำลังการผลิตรวม 20 เมกะวัตต์ จำนวน 4 โครงการที่ซื้อเข้ามาในไตรมาส 3ปี2563

 ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซียและโรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 30 และ 130 จากไตรมาส 2/2563 ตามลำดับ จากค่าไฟที่ถูกปรับขึ้น อีกทั้งยังได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า โดยในไตรมาส 2/64 มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 80 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/64 กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 992 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 860 ล้านบาท จากแรงหนุนจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมทั้งส่วนแบ่งกำไรที่เติบโต 

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิ 1,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 928 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 1,940 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,684 ล้านบาท และมีรายได้รวมจำนวน 2,135 ล้านบาท

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่คาดว่ามีอัตราการผลิตที่สูงขึ้น และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น ที่ทยอยเริ่มจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในครึ่งปีหลังเป็นต้นไป

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน รวมส่วนที่มีผู้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) จำนวนรวม 7.9 พันล้านบาท ไปขยายการลงทุนโครงการใหม่ตามแผน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่สามารถรับรู้รายได้ทันที ผลักดัน EBITDA ในปี 2564 โตไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ตามเป้าหมายที่วางไว้ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบีซีพีจี กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 3ปี2564  บริษัทฯ มีแผนที่จะออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (กรีนบอนด์) เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้ชำระคืนเงินกู้ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถจัดระยะเวลาการชำระหนี้ให้มีความเหมาะสมมากขึ้นด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ ซึ่งจะส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินมีความยืดหยุ่นและแข็งแกร่งมากขึ้น  พร้อมรองรับโอกาสการเติบโตในอนาคต