ภูเก็ต เร่งสร้าง CI ในแต่ละอำเภอ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม

ภูเก็ต เร่งสร้าง CI ในแต่ละอำเภอ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม

ภูเก็ต เร่งสร้าง CI ในแต่ละอำเภอ หลังพบตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการคัดกรองเชิงรุกเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ COVID-19 พื้นที่ จ.ภูเก็ต ว่า เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.ภูเก็ต) และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ต ต่างระดมกำลังเร่งช่วยกันทำการปรับปรุงอาคารเรือนนอนและพื้นที่โดยรอบภายในอาคารเรือนจำภูเก็ตเก่า ซึ่งยกเลิกการใช้งานมาเป็นร่วม 9 เดือน เพื่อใช้เป็นศูนย์ดูแลโควิด-19 ชุมชน (CI) จังหวัดภูเก็ต ดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว หลังจากพบตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เฉพาะเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในภูเก็ต 81 ราย แบ่งเป็น ผู้เสี่ยงสัมผัสสูง 28 ราย ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย และตรวจเชิงรุก 43 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในระลอกเดือนเมษายน นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อีก 4 ราย ขณะที่เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 64 มีรายงานพบผู้ป่วยใหม่ในภูเก็ต จำนวน 61 ราย แบ่งเป็นผู้เสี่ยงสัมผัสสูง 35 ราย และติดเชื้อใหม่ 26 ราย นอกจากนี้ยังมีรับผู้ป่วยกลับบ้าน 3 รายส่งผลให้โรงพยาบาลสนาม ซึ่งมีอยู่ 2 แห่ง อาจจะไม่พอรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย

นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น จากการตรวจคัดกรองเชิงรุก ว่า ขณะนี้ทางจังหวัดภูเก็ตได้มีการเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งศูนย์ดูแลโควิด-19 ชุมชน (CI) หรือโรงพยาบาลสนามชุมชนขึ้นในแต่ละพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกและโครงการรับผู้ป่วยกลับบ้านซึ่งจะต้องเข้ารับการการดูแลในโรงพยาบาลสนาม ปัจจุบันที่ให้บริการอยู่แล้ว คือ โรงพยาบาลสนาม ม.อ.ภูเก็ต รองรับได้ 170 เตียง และ โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต รองรับได้ 300 เตียง แม้ขณะนี้จะยังไม่ล้นแต่จำเป็นจะต้องมีการเตรียมการไว้รองรับให้เพียงพอ โดยเบื้องต้นจะใช้อาคารเรือนจำจังหวัดภูเก็ตเก่าซึ่งไม่ใช้แล้วมาทำการ ปรับปรุงเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 3 รองรับได้ประมาณ 500 คน คาดจะเปิดให้บริการภายในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้ยังได้มีการจัดหาสถานที่แยกกักผู้ป่วยโควิด-19 ในชุมชนในพื้นที่ อ.ถลาง และในพื้นที่ อ.กะทู้ ขณะเดียวกันจากการลงพื้นที่ตรวจแคมป์แรงงานข้ามชาติ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ในการปฎิบัติตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด กรณีที่พบผู้มีความเสี่ยงก็ได้จัดที่พักแยกจากคนงานปกติ และมีการประสานความร่วมมือกับผู้นำชุมชน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย