'นอติลุส' เสริมพอร์ตโฟลิอาหาร ดันยอดขาย 10,000 ล้าน ใน 3 ปี

ปี 2564 เป็นปีแห่งการพิสูจน์กลยุทธ์การทำธุรกิจเพื่อเอาตัว “รอด” ในสภาวะวิกฤติของผู้ประกอบการหลายเซ็กเตอร์ เพราะถูกพิษสงโควิด-19 เล่นงานกันอย่างหนักหน่วง ไม่เว้นปม้กระทั่งสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะของกินของใช้ 

ทั้งนี้ โรคระบาดเป็นปฏิกิริยาเร่งให้หลายองค์กรต้อง “ปรับตัว” หาสูตรหรือโมเดลใหม่ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง รองรับเทรนด์ที่ยังมี “โอกาสเติบโต” ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการชอปปิง “ออนไลน์” บริการ “เดลิเวอรี่” เป็นต้น 

หากพูดถึงหมวด “อาหาร” เทรนด์ผู้บริโภค “รักสุขภาพ” มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ และโควิดยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงความมั่งคั่งที่แท้จริงคือเรื่องสุขภาพ หรือ Health is wealth ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องแตกไลน์สินค้าอาหารเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดมากขึ้น

“พัทยาฟู้ดกรุ๊ป” เป็นอีกผู้ผลิตอาหารที่ลุกขึ้นมาทำตลาดในห้วงเวลาที่วิกฤติโรคระบาดถาโถมไทยหลายระลอก ซึ่งภายใต้ชายคาของบริษัทที่ทำรายได้รวมหลักหลายพันล้านบาท ตัดสินใจปั้นหมากรบใหม่เข้าทำตลาดอาหาร 

สุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด กรุ๊ป จำกัด ฉายภาพว่า บริษัทคร่ำหวอดในธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลมกว่า 40 ปี มีแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอที่ผู้บริโภครู้จักอย่างดี เช่น  นอติลุส, มงกุฎทะเล และ ซีคราวน์ มีจุดเด่นเรื่องการสรรค์สร้างนวัตกรรมอาหารสุขภาพเพื่ออยู่เคียงข้างคุณ หรือ Health Partner มีการพัฒนานวัตกรรมล่าสุดที่ตอบโจทย์ในยุควิถีปกติใหม่(New Normal) ลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่โดยใช้ ซูเปอร์ฟู้ด (Super Food) ดึงคุณค่าจากธรรมชาติ มอบโภชนาการที่ดีให้ผู้บริโภค พร้อมปั้นแบรนด์ เอ็กซ์เทน เฮลท์วีเนียน(XTEN Healthvenient) อาหารพร้อมทาน เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัยทั้ง เด็กวัยเรียน, คนวัยทำงานหรือ ผู้สูงวัยที่ต้องการอาหารสุขภาพที่สะดวกพร้อมทาน 

สำหรับ เอ็กซ์เทน เป็นน้องใหม่ภายใต้แบรนด์ “นอติลุส” การลุยอาหารสุขภาพพร้อมรับประทานประเภทซีเรียล ได้ประเดิมสินค้าแรกอย่างมัลติเกรนโอ๊ตมีล (Multigrain Oatmeal) เข้าทำตลาด ซึ่งนอกจากจะอุดมด้วยซูเปอร์ฟู้ดต่างๆ ยังมีคอเลสเตอรอลและโซเดียมที่ต่ำ น้ำตาลน้อย และไม่ใส่ผงชูรส โดยมีสินค้า 4 สูตร 4 รสชาติ เช่น โอ๊ตมีลผสมมัลติเกรน เรดแซลมอน(NAUTILUS XTEN: WILD RED SALMON) และโอ๊ตมีล ดาร์กช็อกพร้อมอัลมอนด์(NAUTILUS XTEN: DARK CHOC & ALMONDS) เป็นต้น

ด้านภาพรวมตลาดซีเรียลในประเทศไทยปี 2564 คาดมีมูลค่าตลาดประมาณ 3,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 3-4% จากปีก่อนมูลค่า 2,700 ล้านบาท  ขณะที่ตลาดจีน 178,711 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 6% ดังนั้นการทำตลาดไม่จำกัดแค่ในประเทศ แต่มองโอกาสส่งออกด้วย  

“ตลาดอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพ เป็นเซกเมนต์หนึ่งที่ยังสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากพฤติกรรมผู้บริโภคให้ความใส่ใจในการดูแลตัวเองและครอบครัว เน้นเลือกและรับประทานอาหารที่มีคุณค่าและดีต่อสุขภาพ ขณะที่การรุกตลาดอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพ เราต้องทำความเข้าใจสถานการณ์ตลาดและเทรนด์ผู้บริโภคในปัจจุบันซึ่งมีการเปลี่ยนไป ดังนั้นการพัฒนาสินค้า ทำตลาดต้องปรับแผนงานเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน สินค้าที่ออกสู่ตลาดต้องคำนึงถึงราคาที่สมเหตุสมผล”

แม้ปี 2564 จะเป็นปีที่ท้าทาย แต่บริษัทงยังมุ่งนำเสนอสินค้าคุณภาพและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคต่อไป  

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมธุรกิจอาหารของบริษัทปีนี้ยังตั้งเป้าหมายอดขายรวมที่ 8,000 ล้านบาท เติบโต 5% จากปีก่อน มีสัดส่วนยอดขายในประเทศภายใต้แบรนด์ตัวเอง 20% ตลาดส่งออกและการรับจ้างผลิต(โออีเอ็ม)80% ส่วนเป้าหมายระยะยาวในปี 2567 จะผลักดันยอดขายแตะ 10,000 ล้านบาท โดยจะผลักดันสินค้าเซ็กเมนต์ใหม่อาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “เอ็กซ์เทน” รวมถึงธุรกิจใหม่ในอนาคตจะทำรายได้ 20%