กกร.จี้รัฐ 'ปลดล็อก' นำเข้าวัคซีนทางเลือก

กกร.จี้รัฐ 'ปลดล็อก' นำเข้าวัคซีนทางเลือก

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) กกร.เร่งรัฐจัดหาวัคซีน ปลดล็อกลดขั้นตอนให้เอกชนนำเข้าวัคซีนทางเลือกได้ โดยเปิดกว้างและให้ค่าใช้จ่ายสนับสนุน ย้ำศก.ไทยปีนี้ติดลบและต่ำสุดในอาเซียน ไม่เห็นด้วยล็อกดาวน์เพิ่ม

ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ผยง ศรีวณิช ระบุ เศรษฐกิจไทยเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกปีจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ส่งผลกระทบตลอดครึ่งปีหลัง การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่ประสบความสำเร็จ จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันรวมถึงจำนวนผู้ป่วยสะสมในโรงพยาบาลยังเพิ่มขึ้นในอัตราสูง

ทั้งนี้ การกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนทั่งประเทศยังทำได้ช้า ประเมินว่ามีความเสี่ยงสูงที่ยังต้องจำกัดกิจกรรมเศรษฐกิจตลอดไตรมาสที่ 4 รวมถึงลดทอนความเป็นไปได้หรือประโยชน์ของแผนการเปิดประเทศ

ที่ประชุม กกร. เสนอให้ภาครัฐอนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนได้อย่างเสรีโดยไม่ต้องผ่านผู้ผลิตหรือผู้แทนจำหน่ายและหน่วยงานรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลจากภาครัฐ โดยภาครัฐเป็นผู้ออกใบสั่งซื้อและออกค่าใช้จ่าย ให้ อย. เร่งอนุมัติวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ โดยไม่ต้องรอบริษัทวัคซีนนำเอกสารมายื่น เพื่อเพิ่มทางเลือกและเปิดโอกาสในการจัดหาวัคซีนมากยิ่งขึ้น ให้ภาครัฐสนับสนุนการลดหย่อนภาษี 2 เท่า สำหรับภาคเอกชนที่มีค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Antigen Test Kit) และค่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมถึงให้เอกชนช่วยดำเนินการสนับสนุนการผลิตและจัดหายา "ฟาวิพิราเวียร์" ที่กำลังมีความต้องการสูง

“เศรษฐกิจไทยยังวิกฤตและเผชิญความเสี่ยงค่อนข้างมากจากการระบาดระลอกใหม่ที่รวดเร็วและรุนแรง กระทบต่ออุปสงค์ในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวต่อเนื่องยังสนับสนุนส่งออกของไทยในระยะต่อไป ที่ประชุม กกร. จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 เป็น -1.5 % ถึง 0.0%”

ประธานกรรมการหอการค้าไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ ไม่เห็นด้วยกับการล็อกดาวน์มากกว่าที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน เพราะจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังลงได้ บทเรียนที่เห็นได้ก็จากประเทศมาเลเซีย ซึ่งการล็อกดาวน์ไม่มีมาตรการป้องกันจะอันตรายมากและยังทำให้วัคซีนเข้ามาในประเทศมากขึ้น

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สุพันธุ์ มงคงสุธี ระบุ สถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้ย่ำแย่มาก ซึ่งเป็นผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์ตามรัฐบาลสั่งมา ถ้าล็อกดาวน์มากกว่านี้ ก็จะยิ่งแย่ ดังนั้นภาคเอกชนต้องการให้การจัดหาวัคซีนต้องเปิดกว้างและนำเข้ามาให้ได้มากสุด และประเภทวัคซีนต้องเปิดกว้างมากกว่านี้ ให้ขึ้นทะเบียนโดยเร็ว และเปิดให้ภาคเอกชนควรมีส่วนร่วม เพราะความต้องการฉีดวัคซีนควรได้เดือนละไม่ต่ำ 10 ล้าน แต่วันนี้เราฉีดได้แค่ 2-3 แสนโดสต่อวัน ถือว่าติดลบมาก ดังนั้นรัฐบาลควรสนับสนุนค่าใช้จ่ายวัคซีนทางเลือก และเปิดกว้างให้นำเข้าวัคซีนมาให้ได้มากที่สุด เพราะขณะนี้การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยลำบากและต่ำสุดในอาเซียน