“ประยุทธ์” ไม่ทิ้งประชาชน “ประชาชน”จะทิ้งประยุทธ์?

“ประยุทธ์” ไม่ทิ้งประชาชน “ประชาชน”จะทิ้งประยุทธ์?

การเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว คำตอบว่าประชาชนจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อหรือทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ปลายทาง อาจเห็นสัญญาณได้ในไม่ช้า 

พรรคร่วมรัฐบาลให้คำสัญญากันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะไม่ทิ้งกัน ทั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยันทั้งทางลับ-ทางไม่ลับ จะอยู่ช่วย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปให้ได้

แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเผชิญกับวิกฤติศรัทธา จนคะแนนนิยมตกต่ำอย่างหนัก แต่ระยะเวลาครบเทอมสภายังเหลืออีกกว่า 1 ปีครึ่ง ทำให้ อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่ายังเหลือเวลาให้กอบกู้แต้มการเมืองกลับมาได้

ตามไทม์ไลน์ที่ “แกนนำรัฐบาล” วางเอาไว้คือเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยช้าสุดช่วงต้นปี 2565 ถึงช่วงกลางปี 2565 จะต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทั้งประเทศให้ได้ จากนั้นช่วงกลางปี 2565 ถึงช่วงปลายปี 2565 จะเป็นช่วงฟื้นฟูทางเศรษฐกิจ และอัดเม็ดเงินเยียวยาล็อตสุดท้ายเข้าสู่ระบบ

จากนั้น จะถึงเวลาคิดเรื่องการ “ยุบสภา” เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงต้นปี 2566 เพราะหากในช่วงเวลาดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์-พรรคร่วมรัฐบาล น่าจะกลับมีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากที่สุดแล้ว

ฉะนั้นในเวลานี้จึงยากที่ พล.อ.ประยุทธ์-พรรคร่วมรัฐบาล จะยอมทิ้งเก้าอี้นายกฯ-เก้าอี้รัฐมนตรี เพราะรู้ดีว่า หากยอมยกธงขาว ยอมลาออก-ยอมยุบสภาตามกระแสกดดัน โอกาสกลับมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลแทบไม่มี

เวลาของ พล.อ.ประยุทธ์-พรรคร่วมรัฐบาล ที่เหลืออีกกว่าปีครึ่ง จึงต้องเร่งทำงานอย่างเต็มที่เต็มกำลัง อุดทุกช่องโหว่ที่อาจจะทำให้ประชาชนไม่พอใจ เร่งทุกฝีก้าวเพื่อเรียกศรัทธาของประชาชนกลับมา

แต่ในทางกลับกันหาก พล.อ.ประยุทธ์-พรรคร่วมรัฐบาล เดินเกมเดิมพันผิดพลาด สถานการณ์โควิด-19 ยังระบาดไม่หยุด ไม่สามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเดินหน้าได้ ไม่สามารถควบคุมยอดผู้ติดเชื้อ ยอดผู้เสียชีวิตให้น้อยลงได้จนทอดเวลายาวนานออกไป การเลือกตั้งครั้งหน้าก็เกมโอเวอร์ได้เหมือนกัน

สถานการณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์-พรรคร่วมรัฐบาล ตรงกันข้ามกับ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ที่คะแนนนิยมกำลังพุ่งสวนทาง เพราะออกมานำแสดงทางแก้ปัญหา และข้อทักท้วงการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ในเชิงบวก จนสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนได้

โดยเฉพาะการออกมาติติงการจัดซื้อวัคซีน ที่รัฐบาล "แทงม้าตัวเดียว" สุดท้ายม้าตัวที่รัฐบาลเลือกแทง ไม่สามารถจัดส่งวัคซีนในปริมาณที่รัฐบาลวางเป้าหมายเอาไว้ได้ และยังพลาดซ้ำด้วยการออกมาตรการที่ผิดพลาดของ ศบค. ทำให้โซเชียลมีเดียออกมาท้วงติง จน ศบค.ต้องปรับมาตรการ ยิ่งสะท้อนการบริหารงานที่ผิดพลาด ยิ่งทำให้แต้มการเมืองของ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ในเวลานี้ทิ้งห่างพรรคร่วมรัฐบาล

ชอตต่อไป รอเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านวางเป้าชำแหละ พล.อ.ประยุทธ์ ที่รวมศูนย์อำนาจบริหารสถานการณ์โควิด-19 ไว้ที่ตัวเองเกือบทั้งหมด ส่วนรัฐมนตรีที่มีชื่ออยู่ในลิสต์กำลังถูกประเมินว่าควรยื่นซักฟอกใคร

เป้าหมายของพรรคร่วมฝ่ายค้าน มุมหนึ่งอยากโฟกัสหลักไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว โดยวางยุทธศาสตร์วัดใจ 2 พรรคร่วมรัฐบาล "ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์" เพราะหากซักฟอก พล.อ.ประยุทธ์เข้าเป้า เกิดกระแสขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ หนักหน่วง ก็จะเปิดโอกาสให้ ทั้ง 2 พรรคนี้มีเหตุผลในการถอนตัวได้ไม่ยาก

แต่หากใส่ชื่อรัฐมนตรีจากภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ อยู่ในญัตติซักฟอกด้วย ยุทธศาสตร์แยกพรรคร่วมรัฐบาลออกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ก็ย่อมไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต้องรักษากติกามารยาทในการจับมือกันสู้ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน”

ทว่าเมื่อเช็คอินไซด์ท่าทีของภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ ยังยืนยันเสียงแข็งว่า จะร่วมหัวจมท้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นหากไม่ใส่ชื่อรัฐมนตรีจาก 2 พรรคร่วมรัฐบาลลงในญัตติซักฟอก ก็อาจเสียของ 

โดยเฉพาะชื่อของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่กุมบังเหียนกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หมายมั่นปั้นมือจะชำแหละหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง โดยพุ่งเป้าไปที่การจัดซื้อวัคซีนเป็นหลัก โดยเฉพาะการทำสัญญากับแอสตร้าเซเนกา ที่พรรคก้าวไกลแอคชั่นของดูสัญญาตั้งแต่เริ่มแรก

ที่สำคัญ ยังเป็น “อนุทิน”ที่มีส่วนในการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค โดยเฉพาะล็อตล่าสุดที่มีการสั่งเข้ามาเพิ่มอีกกว่า 10.9 ล้านโดส ทั้งที่มีผลวิจัยรองรับแล้วว่า มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้น้อยมาก

ดังนั้นหากพรรคร่วมฝ่ายค้านตัดใจไม่ยื่นซักฟอก “อนุทิน” จะเสียโอกาสเปิดแผลกระทรวงสาธารณสุขทันที

จึงต้องจับตาว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะวางเกมศึกซักฟอกอย่างไร เพราะมีกระแสขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ นอกสภาฯ รอกระหน่ำซ้ำแผลที่ถูกเปิดในสภา หากทำได้เข้าเป้าก็มีโอกาสเช่นกันที่จะเพิ่มกระแสไล่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น

เพราะหากจับอาการของ “คนรักประยุทธ์” เวลานี้ มีแต่ลดน้อยถอยลง คนเคยรักกลับใจมาอยู่ “ขั้วตรงข้าม” คนเคยรักมากเริ่มปันใจออกห่าง คนไม่รักยิ่งไม่รักหนักมากขึ้น ยังไม่นับโพลล์สำนักต่างๆ ในระยะหลัง ความนิยมนายกฯ เริ่มลดลงเรื่อยๆ สถานการณ์เช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จึงอยู่ยาก

เหมือนที่ “โทนี่ วู้ดซัม” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยตอบคำถามผู้ร่วมสนทนาคลับเฮาส์ที่ว่า “เป็นไปได้ไหมที่คุณประยุทธ์จะลงแบบสวยๆ” ซึ่งคำตอบของ “โทนี่” บอกว่า “ไม่กี่วันก่อนเห็นท่านนายกฯ พูดว่าเป็นทหาร ไม่ละทิ้งประชาชนแน่นอน แต่ผมไม่แน่ใจว่าประชาชนจะละทิ้งท่านรึเปล่านะ”

ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งหน้าไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว คำตอบว่าประชาชนจะให้ พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อหรือทิ้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ปลายทาง อาจเห็นสัญญาณได้ในไม่ช้า