ยังเลือกเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอจุดซื้อที่ดี

ยังเลือกเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอจุดซื้อที่ดี

หุ้นโลกบวกจากผลประกอบการแต่กังวลแนวโน้มการเติบโตที่อาจชะลอ

หุ้นยุโรปปิดบวกจากผลประกอบการ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ผันผวนแม้บวกจากแนวโน้มผลประกอบการและข่าวร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน แต่ DJIA กลับมาปิดลดลงจากการรายงานดัชนีการผลิตของสหรัฐฯ ก.ค.ที่ปรับลดลงเล็กน้อยเหลือ 59.5 จากมิย.ที่ 60.6 ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรกลุ่มวัสดุก่อสร้าง พลังงาน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ปรับลดลงเล็กน้อยจาก 1.24% เหลือ 1.19%

ข้อจำกัดของเพดานหนี้สหรัฐฯ ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ควร ข้อจำกัดของเพดานหนี้ทำให้ปริมาณการขายพันธบัตรของสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่ต่ำ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยกดผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ไว้ในระดับต่ำ ขณะที่มีรายงานว่า JPMorgan คาดการณ์การออกหนี้สินสุทธิทั้งหมดของสหรัฐฯ ในปี 2564 อยู่ที่ 1.46 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งลดลงจากปี 2564 ที่ 2.32 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้นเรามองผลตอบแทนพันธบัตรในระยะสั้นมีโอกาสทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่อง จนกว่าสหรัฐฯ จะมีการขยายเพดานหนี้ ซึ่งทำให้การประมูลพันธบัตรกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และน่าจะผลักให้ผลตอบแทนพันธบัตรมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นหลังปลดล็อคเรื่องเพดานหนี้ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายก.ย.64

ธีมการลงทุนระยะสั้น กลุ่มสื่อสารและ REITs ยังเป็นแหล่งพักเงินที่ดี ในช่วงที่ตลาดกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงการปรับประมาณการผลประกอบการที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เรามองทยอยสะสม ADVANC, DTAC, FTREIT, WHART / เก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุน JAS, ALT / ทยอยสะสมสาธารณูปโภค RATCH, EASTW, WHAUP, TTW / กลุ่มอาหารและเกษตร TVO, TU, CPF, GFPT, TWPC / เก็งกำไร กลุ่มเดินเรือ PSL, TTA, RCL / เก็งกำไรกลุ่มอุปกรณ์การแพทย์ SMD, TM, WINMED, BIZ / เก็งกำไรกลุ่มบรรจุภัณฑ์ SCGP, BGC / กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แม้แนวโน้มผลประกอบการดี แต่เพิ่มความระวังความผันผวนและจากความเสี่ยงการผลิตอาจกระทบหากมีพนักงานติดโควิด

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,510 - 1,535 จุด แต่หุ้นไทยยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวด้อยกว่าตลาดโลกจากความเสี่ยงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ใช้จังหวะดีดตัวในการขายเพิ่มการถือเงินสด และยังเน้นเพียง เลือกเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอจุดซื้อที่ดี  // หุ้นแนะนำ: KEX*, TTA*, SMD*, BGC*

แนวรับ: 1,510-1,520/ แนวต้าน : 1,535 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

ค่าระวางเรือ - ดัชนี Baltic Dry Index (BDI) ปิดที่ 3,282 จุด -0.3% ค่าระวางเรือขนาดใหญ่มาก (Capesize) -0.8% / ค่าระวางเรือขนาดใหญ่ (Panamax) -0.44% / ค่าระวางเรือขนาดกลาง (Supramax) +0.46% / ค่าระวางเรือขนาดเล็ก (Handysize) +0.07%

ยังคงมุมมองระวังราคาหุ้นกลุ่มโบรคเกอร์ - ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์ช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 30 ก.ค. เราเตือนให้ระวังถึงการเก็งกำไรหุ้นโบรคเกอร์ เนื่องจากกังวลแนวโน้มของปริมาณการซื้อขาย ในช่วงไตรมาส 2/64 ที่เริ่มลดลงจากไตรมาส 1/64 จะส่งผลกระทบต่อกำไรไตรมาส 2/64 ล่าสุด MBKET รายงานกำไรที่ 171 ล้านบาท แม้เพิ่มขึ้น +60% YoY แต่ลดลง 38% QoQ ยืนยันการผ่ารนจุดสูงสุดของปริมาณการซื้อขายแล้ว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการเก็งกำไรหุ้นโบรคเกอร์ทุกตัว

WHA กังวลโควิดกระทบยอดโอน - คงเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ 700 ไร่ - เวียดนาม 300 ไร่ แต่หากมาตรการล็อคดาวน์เกิน 2 เดือน ยอดโดนที่ดินอาจพลาดเป้าจากการที่ลูกค้าไม่สามารถเดินทางมาได้

สศช.ชงเพิ่มเยียวยา 16 จังหวัด คลังยันไม่กระทบเป้า GDP. สศช.ชง ครม. วันนี้เพิ่มเยียวยาอีก 16 จังหวัด ในพื้นที่สีแดงเข้ม ขอเพิ่มงบเงินกู้จากเดิม 3 หมื่นล้านบาท หลังจำนวนผู้เยียวยาสูงขึ้น คลังชี้เพิ่มล็อคดาวน์ไม่กระทบเป้า GDP

ดัชนีเชื่อมั่นทางธุรกิจก.ค.ลดลงเกือบทุกธุรกิจ จากผลโควิด-19 ยืดเยื้อ. ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ เดือน ก.ค. อยู่ที่ระดับ 41.4 ลดลงจาก 46.5 ในเดือน มิ.ย. ตามการปรับลดลงในทุกองค์ประกอบและเกือบทุกธุรกิจ ขณะที่ความเชื่อมั่นของธุรกิจก่อสร้าง-อสังหาฯ ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ATP30. แตกไลน์ธุรกิจให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดเซ็นต์สัญญากับ “อีวี มี พลัสเป็นระยะเวลา 1 ปี พร้อมกดปุ่มรับส่งพนักงานลูกค้ารายใหญ่ในไตรมาส 3/64

 

ประเด็นติดตาม: -  4 ส.ค. ประชุม กนง. / 5 ส.ค.: US Initial Jobless Claims, TH CPI เดือน ก.ค., BOE Meeting / 6 ส.ค.: US Employment Report

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)