UK ชี้ วัคซีนโควิด มีแนวโน้มประสิทธิภาพป้องกัน ลดต่ำลง

UK ชี้ วัคซีนโควิด มีแนวโน้มประสิทธิภาพป้องกัน ลดต่ำลง

นักวิทยาศาสตร์สหราชอาณาจักร ชี้ วัคซีนช่วยป้องกันโควิด-19 และลดความรุนแรงโรคที่อาจเกิดขึ้นได้ก็จริง แต่แนวโน้มประสิทธิภาพ จะค่อยๆลดลง ทำให้การฉีดวัคซีน ยังคงมีต่อเนื่องไปอีกหลายปี

เอกสารผลการศึกษาเรื่อง "วัคซีนจะป้องกันโควิด-19 ได้นานแค่ไหน" จัดทำโดยทีมที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ กรณีฉุกเฉิน (SAGE) ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า วัคซีนโควิด-19 ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และป้องกันอาการป่วยที่จะเกิดรุนแรง จะมีประสิทธิภาพลดต่ำลงเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงมีแนวโน้มว่า การรณรงค์ฉีดวัคซีนจะยังคงอยู่ต่อไปอีกหลายปี แต่ขณะนี้ เรายังไม่รู้ว่า ระยะเวลาที่เหมาะสมที่จะต้องฉีดวัคซีนซ้ำ เพื่อป้องกันกลับมาเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 

การศึกษาดังกล่าว จัดทำโดยนักวิทยาศาสตร์ประกอบด้วย นักไวรัสวิทยา และนักระบาดวิทยาที่มีชื่อเสียงจากอิมพีเรียลคอลเลจลอนดอน มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม และสาธารณสุขอังกฤษ

สหราชอาณาจักรได้อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 แล้ว 3 ชนิด ได้แก่ ออกซ์ฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์-ไบออนเทค และโมเดอร์นา ซึ่งเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2563 

ก่อนหน้านี้ ข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณะ วัคซีนเหล่านี้มีประสิทธิภาพ 95% หรือสูงกว่านั้น ปัจจุบันวัคซีนต้องรับมือโควิด-19 สายพันธุ์อัลฟา ที่ระบาดไปทั่วสหราชอาณาจักร เมื่อต้นปี 2564 

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลได้เปิดเผยผลการศึกษาในลักษณะเช่นเดียวกัน ซึ่งระบุว่า ประสิทธิภาพวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ ลดลงเหลือ 39% เมื่อพบกับสายพันธุ์เดลตา สิ่งนี้เป็นการสนับสนุนแนวคิดเรื่องประสิทธิภาพวัคซีนที่ค่อยๆ ลดลง เหมือนอย่างที่สหราชอาณาจักรรายงาน