สภาเกษตรกรฯหนุนโครงการ 'มัดจำต้นไม้' เพิ่มรายได้

สภาเกษตรกรฯหนุนโครงการ 'มัดจำต้นไม้' เพิ่มรายได้

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง)

รองเลขาธิการสภาเกษตรกรแห่งชาติ ศรีสะเกษ สมาน ระบุ สภาฯได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายการปลูกต้นไม้มีค่า 58 ชนิดต่อรัฐบาลจนมีผลบังคับใช้ รวมถึงการผลักดันเรื่องการปลูกไผ่ เพราะใช้ประโยชน์ได้มากและหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องอาหาร ที่อยู่อาศัย เฟอร์นิเจอร์ ไม้ใช้สอยประจำวัน จนถึงเรื่องพลังงานสามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรทั้งระยะสั้นและระยะยาวในโครงการธนาคารสีเขียว หรือ Green Bank

สภาฯจะร่วมขับเคลื่อนโครงการธนาคารสีเขียว หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโครงการมัดจำต้นไม้ เพราะฟังดูไม่ไกลเกินไป เข้าใจง่าย โดยจะลงพื้นที่ไปสำรวจเกษตรกรที่มีความสนใจเข้าร่วมโครงการ และเตรียมความพร้อมเกษตรกรเข้าสู่การใช้ต้นไม้เพื่อการค้าปัจจุบันหรือค้าเป็นหลักทรัพย์

ขณะเดียวกัน จะเสนอให้คณะทำงานดำเนินการประชาสัมพันธ์และสร้างแบบจำลองในจังหวัดอย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบให้เกษตรกรได้เรียนรู้จากของจริง มองว่าหากเริ่มดำเนินการโครงการธนาคารสีเขียวใน 1 จังหวัดจะมีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวนมาก ด้วยก่อนหน้านั้นเกษตรกรได้ปลูกต้นไม้ตามนโยบายรัฐบาลไปบ้างแล้ว และสภาฯได้ผลักดันการปลูกไผ่ไปในหลายพื้นที่ครอบคลุม 77 จังหวัด ซึ่งสามารถเริ่มได้ทันที เพียงวางระบบ การขึ้นทะเบียนให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้

สำหรับเรื่องเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินสำคัญมาก พื้นที่ที่รัฐอนุญาตให้ทำกินทั้งหมดยังไม่ครอบคลุมเกษตรกร ประชาชนส่วนใหญ่จึงยังเข้าร่วมโครงการไม่ได้ ข้อสังเกต คือ เกษตรกร ประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ์ตามพื้นที่ราบส่วนใหญ่ไม่ปลูกไม้เศรษฐกิจเป็นแปลง ต่างจากเกษตรกร ประชาชนพื้นที่สูงหรือบนภูเขา แต่กลุ่มนี้กลับไม่มีเอกสารสิทธิ์
 
ทั้งเรื่องเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินและการส่งเสริมปลูกต้นไม้ใหญ่ให้เป็นอาชีพทางเลือกเป็นเรื่องลำดับต้นที่สภาฯผลักดันอยู่ตลอด หากร่วมกับภาครัฐวางนโยบาย ทิศทางที่จะทำให้เกษตรกร ประชาชนมั่นใจได้ว่าเขาจะมั่นคงแข็งแรง ยั่งยืนถาวรก็จะได้ทั้งป่า ต้นน้ำ ต้นไม้ เศรษฐกิจคืนมา ความขัดแย้งกับภาครัฐก็จะไม่เกิด นี่คือปัญหาที่บอกกับกระทรวง รัฐบาลปัญหาและโครงการนี้จะต้องหาทางเข้าไปแก้ไขไม่อย่างนั้นโครงการก็จะเข้าถึงเฉพาะกลุ่มคนเดิมๆที่มีโอกาสอยู่แล้ว และก็จะไปตัดทางคนด้อยโอกาสเหมือนเดิม

สภาฯอยากให้เกษตรกรได้มองทางเลือกและกำหนดแผนการสร้างรายได้เป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้หลุดพ้นจากความจน ความยากลำบาก ซึ่งในความเป็นจริงไม่ค่อยมีคนวางแผนมากนัก