'ยุทธพงศ์' คาใจ ลดงบ 'ทัพเรือ' น้อยไป บี้ กมธ. ตอบใบสั่งรัฐบาล

'ยุทธพงศ์' คาใจ ลดงบ 'ทัพเรือ' น้อยไป บี้ กมธ. ตอบใบสั่งรัฐบาล

ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เผย กมธ.งบฯ พรุ่งนี้ ถกคำแปรญัตติ งบประมาณ 1.2แสนล้านบาท คาใจ ยอดลดงบ ทัพเรือ ต่ำ - มีใบสั่งรัฐบาลให้ช่วย

       นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร  ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 แถลงที่พรรคเพื่อไทย ว่า ในวันที่ 2 สิงหาคม กมธ.ฯ ได้นัดประชุมเพื่อพิจารณาคำแปรญัตติยอดปรับลดงบประมาณของคณะรัฐมตรี (ครม.) จำนวน 1.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ในผลการพิจารณาของอนุกมธ. ได้ปรับลดงบประมาณรวม 1.6 หมื่นล้านบาท สำหรับการพิจารณางบประมาณที่ผ่านมา ในส่วนของกองทัพ พบปัญหาการลดงบประมาณของกองทัพเรือ  จากคำของบ ทั้งสิ้น 41,307 ล้าน แต่ปรับลดเพียง 1 รายการ คือรถประจำตำแหน่งพลเรือเอก จำนวน 5 คัน รวม 8.38 ล้าน เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น เช่น กองทัพบก คำของบฯ 99,377 ล้านบาท ปรับลด 1,100 ล้านบาท กองทัพอากาศ คำของบฯ 38,404 ล้านบาท ปรับลด 510 ล้านบาท แต่เหตุใดกองทัพเรือ คำของบฯ 41,307 ล้านบาท กลับปรับลดเพียง 8.38 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นตนขอตั้งคำถามไปยัง กมธ.ฯ ว่า เพราะมีคำสั่งจากบิ๊กรัฐบาลให้ช่วยเหลือกองทัพเรือ จริงหรือไม่

       นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ความไม่โปร่งใสของกองทัพมีหลายข้อ ได้แก่ ปลัดบัญชีทหารเรือ ซึ่งมีหน้าที่ชี้แจงไม่เคยเข้ามาชี้แจงงบฯ แต่กลับส่งพลเรือเอกธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงแทน รวมทั้งไม่ให้เอกสารรายละเอียดการจัดซื้อและเหตุผลในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ทั้งนี้ในการสั่งซื้อเรือรบยกพลขึ้นบก ราคา 6,200 ล้านบาท ฝ่ายค้านท้วงติงชะลอการสั่งซื้อ เพราะต้องมีงบฯ เพื่อจัดซื้ออาวุธตามมา แต่ กมธ.ฝั่งรัฐบาลกลับบอกมีเรือรบได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอาวุธ จึงอยากสอบถามว่าหากเรือรบที่ไม่มีระบบอาวุธ จะสั่งซื้อทำไม

  

          "นอกจากนี้ยังไม่เลื่อนการสั่งซื้อโดรน 3 ตัว ตัวละ 1,400 ล้านบาท สัญญาผูกพันไปถึงปี 2568 มูลค่ารวม 4,100 ล้านบาท โดยให้เหตุผลความจำเป็นด้านความมั่นคง  ซึ่ง กมธ.ฝั่งรัฐบาลทั้งหมดยกมือให้ผ่าน แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยัน ไม่ร่วมสังฆกรรมในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ในเวลานี้ จึงขอวอล์กเอาต์ และตั้งคำถามว่า กมธ.ของรัฐบาลทั้ง 36 คน เข้าข่ายกระทำผิด ม.144 มีส่วนได้เสียทางตรงหรือทางอ้อมกับหน่วยงานเหล่านั้นหรือไม่" นายยุทธพงศ์​กล่าว.