25 ศูนย์ฉีดวัคซีนกทม.-เอกชน แห่งถูกเท ไม่มีวัคซีน จ่อปิดตัว

25 ศูนย์ฉีดวัคซีนกทม.-เอกชน แห่งถูกเท ไม่มีวัคซีน จ่อปิดตัว

วัคซีนไม่มาตามนัด ทำศูนย์ฉีดวัคซีน 25 แห่งพลาดเป้าฉีดวัคซีนให้กับคนกรุง หากสถานการณ์ยังเหมือนเดิมปิดตัวลงแน่นอน ด้าน”สนั่น อังอุบลกุล”ย้ำเจตนารมณ์หนุนประชาชนเข้าถึงวัคซีน ชี้ วัคซีนคือคำตอบสุดท้ายหยุดโควิด

หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด – 19 กรุงเทพมหานคร – หอการค้าไทยจำนวน 25 จุด ที่เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด -19 นอกโรงพยาบาลสำหรับชาวกทม. เกิดจากจุดเริ่มต้นที่ภาคเอกชนโดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานหอการค้าไทยได้ร่วมมือกับทางกรุงเทพมหานครจัดศูนย์ฉีดที่มีมาตรฐานรองรับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ให้กับชาวกรุงเทพฯเพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลและภาครัฐ  

โดยหอการค้าไทยและเครือข่ายภาคเอกชนมีความมุ่งมั่นและมีเป้าหมายหลักที่จะให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนให้มากที่สุด ภายใต้นโยบาย Connect the Dots ของ”สนั่น อังอุบลกุล”ซึ่งสนับสนุนการกระจายวัคซีนของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ครบ 70% ของประชากรภายในปี 2564 นี้ เพื่อให้เกิดภูมิต้านทานหมู่ (Herd Immunity)  โดย 25 ศูนย์ฉีดวัคซีนทั่วกรุงเทพมหานคร ความพร้อมด้านสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์ รวมถึงระบบเทคโนโลยีที่ได้เข้ามามีส่วนช่วยให้การดำเนินงานของศูนย์ดังกล่าวเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ

สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล 25 แห่งประกอบด้วย 1.มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, 2.เดอะสตรีท รัชดา, 3.ศูนย์ฉีดวัคซีนเอสซีจี, 4.SCB สำนักงานใหญ่, 5.ไทยพีบีเอส (Thai PBS), 6. มหาวิทยาลัยศรีปทุม (ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ), 7.สามย่านมิตรทาวน์, 8.เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์ ,9.ทรู ดิจิทัล พาร์ค, 10.ธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์, 11.โลตัส พระราม 4, 12.โลตัส มีนบุรี

13.สยามพารากอน, 14.ดิเอ็มโพเรียม, 15.ไอคอนสยาม, 16.เดอะมอลล์ บางกะปิ, 17.เดอะมอลล์ บางแค, 18.บิ๊กซี บางบอน, 19.บิ๊กซี ร่มเกล้า, 20.เซ็นทรัลเวิลด์, 21.เซ็นทรัล ลาดพร้าว, 22.เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, 23.เซ็นทรัล อีสต์วิลล์, 24.โรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, 25.PTT Station พระราม 2 ขาออก (กม.12)

ทั้งนี้ เปิดให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ อายุตั้งแต่ 18-59 ปี และไม่ได้เป็น 7 กลุ่มโรคเสี่ยง ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านเว็บไซต์ www.ไทยร่วมใจ.com หรือแอปพลิเคชันเป๋าตัง รวมถึงร้านสะดวกซื้อที่ร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.เป็นต้นไป และจะเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.นี้

จากการเปิดให้ลงทะเบียนมีผู้ลงทะเบียนผ่านระบบกว่า 2.5 ล้านคน โดยเฉพาะวันแรกวันเดียวมีผู้เข้าจองใช้สิทธิ์การฉีดวัคซีนสูงถึง 1.2 ล้านคน ถือเป็นความสำเร็จจากความร่วมมือร่วมใจของเครือข่ายเอกชน และศูนย์ให้บริการฉีดวัคซีนได้ถึง 8 หมื่นโดสต่อวัน

162763758677

ผ่านกว่าเกือบ 2  เดือนระหว่างทางเกิดปัญหาต่างๆมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง”วัคซีน”ไม่ได้มาตามนัดและไม่ได้เป็นไปตามแผนการที่วางไว้ จากข้อมูลพบว่า ประชาชนชาวกรุงที่ได้ลงทะเบียนได้และได้ฉีดวัคซีนไปเพียง 5.6 แสนคน คิดเป็นเพียงแค่ 21% ของจำนวนผู้ลงทะเบียนผ่านระบบไทยร่วมใจทั้งหมด

“สนั่น อังอุบลกุล”ยอมรับว่า ที่ผ่านมา 25 ศูนย์ฉีดวัคซีนภาคเอกชน ยังไม่ได้ดำเนินการยังเต็มศักยภาพ เนื่องจากการจัดสรรวัคซีนมายังศูนย์ไม่ต่อเนื่องและไม่ครบตามเป้าหมายวางแผนร่วมกันไว้ ถึงแม้ว่าภาคเอกชนที่สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว มีความยินดี พร้อมทุ่มเทและสละกำลังในการดำเนินงาน แต่ที่ผ่านมาพบว่า หลายศูนย์ยังไม่ได้ถูกใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง ซึ่งถือเป็นความกังวลของภาคเอกชนเพราะเป้าหมายที่จะทำให้การเข้าถึงวัคซีนของประชาชนล่าช้าไปอีก

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนจุดใหญ่หลายจุดแทบร้างหรือบางแห่งปิดป้ายประกาศปิดบริการชั่วคราว เนื่องจากไม่มีวัคซีน  เช่น   สามย่าน มิตรทาวน์  เซ็นทรัล ลาดพร้าว เป็นต้น และหากปล่อยนานไปก็ไม่มีประโยชน์จะต้องมีค่าใช้จ่ายอาจจำเป็นต้องปิดศูนย์ไปโดยปริยาย ซึ่งศูนย์แต่ละแห่งเอกชนใช้เงินลงทุนไปไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบาท

162763767741  

“ประธานหอการค้าไทย”กล่าวย้ำว่า  ถึงวันนี้ภาคเอกชนทั้ง 25 ศูนย์ฉีด ยังยืนยันถึงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนรัฐบาลและประชาชนให้เข้าถึงวัคซีนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงอยากฝากให้รัฐบาลพิจารณาใช้ประโยชน์จากศูนย์ฉีดดังกล่าวโดยประสานความร่วมมือกับทุกฝ่ายให้มากที่สุด เพราะทุกๆ โดสที่ประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนนั้นหมายถึงการลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยและการเสียชีวิต และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติและเศรษฐกิจไทยจะกลับมาซึ่งวัคซีนคือคำตอบของประชาชน

จากนี้ไปคงเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องจัดสรรวัคซีนมาให้เพียงเพื่อไม่ให้ศูนย์ฉีดวัคซีนทั้ง 25 แห่งต้องปิดตัวลง พร้อมไปกับความสูญเปล่าและความตั้งใจของภาคเอกชนที่จะช่วยภาครัฐในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด