'เพื่อไทย’ ขย่มศรัทธา ‘กองทัพ’ โหม ‘กระแส’ เขย่าบัลลังก์ ‘แก๊ง ป.'

       วันนี้ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” รมว.คลัง เป็นประธานกมธ.ฯ นัดดูรายละเอียดการปรับลด งบประมาณ ที่ 9 อนุกมธ. ได้พิจารณา

       สำหรับยอดวงเงินที่ 9 อนุกมธ.ฯ ลดทอน ได้ มีวงเงินรวม 2.6 หมื่นล้านบาท

       ได้แก่ 1. อนุกมธ.รัฐวิสาหกิจ วิทยาศาสตร์ การวิจัย และถ่ายทอดเทคโนโลยี และทุนหมุนเวียน ปรับลดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

       2. อนุกมธ.แผนงานบูรณาการ 2 ปรับลดประมาณ 566 ล้านบาท

       3. อนุกมธ. แผนงานบูรณาการ 1 ปรับลดประมาณ 3,400 ล้านบาท

       4. อนุกมธ.ด้านการศึกษา ปรับลดประมาณ 2,447 ล้านบาท

       5. อนุกมธ. ท้องถิ่น ฯ ปรับลดประมาณ 542 ล้านบาท

       6. อนุกมธ.จังหวัด/กลุ่มจังหวัด อบจ. กทม. และพัทยา ปรับลดประมาณ 2,365 ล้านบาท

       7. อนุ กมธ.ที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง ปรับลดประมาณ 1,300 ล้านบาท

       8. อนุ กมธ.ครุภัณฑ์ และไอซีที ปรับลดประมาณ 4,000 ล้านบาท

       และ 9. อนุกมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้าง ที่ปรึกษา ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น ปรับลดประมาณ 1,313 ล้านบาท

       แต่ยอดการปรับลดดังกล่าวนั้น ยังไม่รวมส่วน “งบกองทัพเรือ” ว่าด้วย โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ที่ กมธ.ซีกฝ่ายค้าน ตั้งข้อสังเกตว่า “พบพิรุธ” ทั้งส่วนการของบผูกพัน เพื่อจ่ายค่างวดให้กับ เรือลำแรก ประมาณ 1,145 ล้านบาท

       ทั้งที่ ปีงบประมาณ 64 ขอและได้รับอนุมัติ เงินค่างวด รวมกว่า2,002 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้กับเรือดำน้ำลำแรก

       และตรวจพบการของบประมาณส่วนที่เกี่ยวข้อง 900 ล้านบาท ที่คาดว่าจะทอนออกจากเงินค่างวดเรือดำน้ำลำแรก เพื่อนำไปเป็นเงินมัดจำ สำหรับการจัดซื้อเรือดำน้ำ ลำที่2 และ 3

       ก่อนหน้านั้น “กองทัพเรือ” ขอถอนแผนงานงบประมาณ โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ระยะที่ 2 และ 3 ออกไปแล้ว โดย พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผบ.ทร. เป็นผู้เอ่ยปากด้วยตนเอง ระหว่างการประชุม งบประมาณฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อ 19 กรกฎาคม

       โดยมีรายละเอียด คือ งบก้อนใหญ่ 2.2 หมื่นล้านบาท และ ส่วนที่เสนอขอ เพื่อวางเป็นเงินมัดจำ 900 ล้านบาท ตามที่ขอเจรจาลดวงเงิน กับรัฐบาลจีน จำนวน 1 ใน3 หรือ 1 ใน 4 ของวงเงินที่ตกลงไว้

       แม้ “กองทัพเรือ” จะยอม ถอนสมอ แต่ “ส.ส.ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร” ผู้จองกฐินหั่นงบเรือดำน้ำ ไม่ยอมรามือ พร้อมขู่จะหั่นงบออกทั้งหมด รวมถึงเงินค่างวด เรือลำแรก “หาก กองทัพเรือ ไม่นำสัญญาการจัดซื้อ ให้ กมธ.งบประมาณ ตรวจสอบก่อนอนุมัติ”

       เหตุผลที่ “พรรคเพื่อไทย” ต้องการดูรายละเอียดสัญญาซื้อเรือดำน้ำ ทั้งลำแรก และลำ 2-3 ถูกเฉลยไว้ กลางวงแถลง ของ “ส.ส.ยุทธพงศ์” เมื่อ 28 กรกฏาคม ว่า เพื่อเปิดแผล "แก๊ง ป.” ประเดิมที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฐานะ ผู้เปิดดีล เรือดำน้ำจากจีน ลำแรก - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม

       กลางเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ตั้งเป้าประกาศเป็นผลงานโบว์แดงของ “ฝ่ายค้าน” ในเดือนสิงหาคม นี้

       จั่วหัวไว้ ทั้ง งบกองทัพ - วิกฤตโควิด-19 ที่แก้ไม่ได้ - ระบบสาธารณสุขที่ล้มเหลว เพราะ อำนาจรวมศูนย์ และ ปมปัญหาการนำเข้า-บริหารจัดการ วัคซีน

       ทั้งหมดนี้ ถูกเชื่อมโยง หวังผล สร้างกระแสนอกสภาฯ ให้ ต่อต้าน “รัฐบาล” ลดความเชื่อมั่นของ “รัฐบาล” ที่หวังปูทางยาวต่อถึง “การเลือกตั้ง” รอบหน้า รวมถึง และ ลดศรัทธา “กองทัพ” ที่เปรียบเหมือน เสาค้ำบัลลังก์ของ “พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์”

       อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตาต่อไป คือ “กมธ.งบฯ” ที่จะพิจารณาวันนี้ จะแก้เกม “ฝ่ายค้าน” อย่างไร หลัง “อนุกมธ.ครุภัณฑ์ และไอซีที” ชงงบเรือดำน้ำ ให้เป็นผู้ตัดสิน

       ว่าจะเข็นงบ “เรือดำน้ำ” ไปต่อ โดยไม่มีเอกสาร-รายละเอียด ที่นำมาแสดง ซึ่งอาจถูกตั้งคำถามภายหลังได้ว่า “สองมาตรฐาน” กับหน่วยราชการอื่นหรือไม่ หรือ ตัดงบ “โครงการ” ตามเกมของ “ฝ่ายค้าน” เพื่อลดกระแสตีกลับจากสังคม

       ไม่ว่าจะเลือกทางใด เชื่อแน่ว่า “เพื่อไทย” มีจะมีภาคต่อ ที่รอสอย “รัฐบาล” คอยท่าไว้แล้ว.