PSL - ถือ (27 ก.ค.64)

คาดกำไร 2Q21F ที่ 765 ลบ. จากขาดทุน 1.2 พันลบ. ใน 2Q20 และกำไร 375 ลบ. ใน 1Q21 กำไรที่แข็งแกร่งได้รับแรงหนุนจากค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ขณะที่ตลาดเรือเทกองอาจอ่อนแอลงในปีหน้าหลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น เราปรับราคาเป้าหมายเป็น 19.4 บาท (จาก 12.0 บาท) จากการปรับคาดการณ์กำไร และ คงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากอัพไซด์จำกัดและ BDI ที่คาดว่าจะอ่อนแอลงในปี 2022

 

คาดกำไรปกติ 2Q ที่ 765ลบ.

ดัชนีค่าระวางเรือขนาด Supramax (BSI) และดัชนีค่าระวางเรือขนาด Handy size (BHSI) เฉลี่ยใน 2Q เพิ่ม 54% และ 36% qoq เป็น 2,303 และ 1,245 จุดตามลำดับ สะท้อนอัตราค่าเช่าเรือ (TC rate) ใน 2Q21 ที่สูงขึ้นและหนุนอัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่า TC rate จะเพิ่มขึ้น 35% qoq เป็น USD16,400 ต่อวัน หนุนกำไรปกติใน 2Q เพิ่มเป็น 765 ลบ. จากขาดทุนสุทธิใน 1.2 พันลบ. ใน 2Q20 และกำไรสุทธิ 375 ลบ. ใน 1Q21

 

คาดตลาดเรือเทกองจะอ่อนแอลงในปีหน้า

คาดดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) จะทรงตัวระดับสูงใน 3Q จาก (1) ความแออัดของท่าเรือหลายแห่งจากมาตรการ COVID-19 ที่เข้มงวดและ (2) ในปี FY21 Demand จะเติบโต 3.8% สูงกว่า Supply ที่เติบโต 2.8% แต่เราคาดว่าตลาดเรือเทกองและค่าระวางเรือจะอ่อนแอลงปีหน้าหลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้นจากการฉีดวัคซีน

 

สต๊อกกากถั่วเหลืองในจีนสูงอาจลดความต้องการการขนส่งเรือเทกอง

BDI แข็งแกร่งในปีนี้ ได้แรงหนุนจาก (1) สต๊อกกากถั่วเหลืองในจีนต่ำที่ 451,000 ตันในก.พ. ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีราว 47% และ (2) รวมถึงความต้องการกากถั่วเหลืองเพิ่มตามกำลังการผลิตสุกรเพิ่มขึ้นในปีนี้ ทำให้จีนเร่งการนำเข้าถั่วเหลือง อย่างไรก็ตามสต๊อกกากถั่วเหลืองของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1,141,900 ตันเพียงพอสำหรับอุตสาหกรรมสุกร ประกอบกับจีนได้ประกาศการลดการนำเข้าสินค้าเกษตรหลายรายการ เช่น ถั่วเหลือง, ข้าวโพด, และข้าวสาลี ใน 2H21 เนื่องจากจำนวนผลผลิตในประเทศฟื้นตัว จีนจึงจะนำเข้าสินค้าเกษตรน้อยลงและส่งผลให้อัตรา BDI อ่อนแอลง

 

คงคำแนะนำ ถือ และราคาเป้าหมายที่ 19.4 บาท (จาก 12.0 บาท)

เราปรับคาดการณ์กำไรปี FY21F และ FY22F ขึ้น 217% และ 67% เป็น 3.0 พันลบ. และ 2.0 พันลบ. ตามลำดับหลังปรับสมมติฐานอัตรา TC rate อย่างไรก็ตามจากอัพไซด์ที่จำกัดและคาดการณ์ BDI อ่อนแอลงใน 2022 เราคงคำแนะนำ ถือ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่เป็น 19.40 บาทอ้างอิง 2.0x FY22F PBV