ธปท.เผยนักวิเคราะห์หั่นเป้าจีดีพีปี 64-65 เหลือโต 1.3% และ 3%

ธปท.เผยนักวิเคราะห์หั่นเป้าจีดีพีปี 64-65 เหลือโต 1.3% และ 3%

ธปท.เผยผลสำรวจนักวิเคราะห์ไตรมาส 3/64 ปรับคาดการณ์จีดีพีปี 64 ลงเหลือ 1.3% จากเดิมคาดโต 2.5% เหตุโควิดกระทบการบริโภคเอกชน ด้านส่งออกยังเป็นเครื่องยนต์หลักที่หนุนเศรษฐกิจ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยมุมมองภาวะเศรษฐกิจไทยจากความเห็นนักวิเคราะห์ในผลการสำรวจ Analyst Survey ครั้งที่ 2 (ไตรมาส 3 ปี 2564) ว่า นักวิเคราะห์ปรับลดคาดการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปีหน้าลงเหลือ 1.3% และ 3% ตามลำดับ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 จะทรงตัวจากไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากการบริโภคภาคเอกชนที่มีแนวโน้มหดตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกเดือน เม.ย.ที่ยืดเยื้อและรุนแรง ขณะที่การส่งออกและการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ธุรกิจในภาคการผลิตมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าธุรกิจในภาคที่มิใช่การผลิต จากการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ คือ นโยบายการเงินที่อยู่ในระดับผ่อนคลาย มาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องของทั้งภาคธุรกิจและประชาชน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัญหาหนี้ครัวเรือน เป็นปัจจัยเสี่ยงที่กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป

นอกจากนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติช้ากว่าการสำรวจครั้งก่อน โดยนักวิเคราะห์ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับสู่ภาวะปกติหลังปี 2565 มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่วนระยะเวลาที่ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตปกติยังมีความไม่แน่นอนสูงโดยมีทั้งกลุ่มที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้และปีหน้าภายใต้สถานการณ์ที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันลดลงต่ำกว่า 500 ราย

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปี 2564 และปี 2565 นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคาดการณ์ขึ้นเป็น 1.2% และ 1.5% ตามลำดับ ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายของปี 2564 และ 2565 คงประเมินการเดิมไว้ที่ 0.5% ส่วนมุมมองต่อเครื่องยนต์หลักที่เหลือของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ปี 2564 คาดว่าการลงทุนภาคเอกชนและการท่องเที่ยวจะไม่เติบโต

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2564 จะอยู่ที่ระดับ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากประมาณการครั้งก่อนที่ 32.0 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

162678966687