เชียงใหม่ ทุ่ม 260 ล. ซื้อ 'โมเดอร์นา' จากสภากาชาดไทย

เชียงใหม่ ทุ่ม 260 ล. ซื้อ 'โมเดอร์นา' จากสภากาชาดไทย

อบจ.เชียงใหม่ ทุ่มงบ 260 ล้านบาท จัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นา 2 แสนโดสจากสภากาชาดไทย เตรียมคุยคณะกรรมการโรคติดต่อเชียงใหม่ในการจัดสรรวัคซีน

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวิทยาลักษณ์ สามใจ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการนัดประชุมสภาวิสามัญสภาครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 64 เพื่อหารือและลงมติเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาจากสภากาชาดไทย โดยในเวลา 14.00 น. การประชุมสภา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนเชียงใหม่ มีมติลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ทั้งหมด 33 เสียง ให้ความเห็นชอบให้นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ใช้เงินกองทุนสะสมขององค์การบริหารส่วนเชียงใหม่จำนวน 260 ล้านบาทซื้อวัคซีนโมเดอร์นาจำนวน 200,000 โดสจากสภากาชาดไทย

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ตามที่สภากาชาดไทย ได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นา จำนวนหนึ่ง จากผู้แทนจำหน่ายในประเทศไทย ผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาฉีดบริการให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ โดยไม่คิดมูลค่า ตามพันธกิจของสภากาชาดไทย และสภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัคชีนจำนวนหนึ่งให้แก่ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจาก คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และเงื่อนไขอื่นๆ ที่กำหนดนั้น

ตนเองได้เข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนที่ศูนย์ฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงาน อบจ.เชียงใหม่ แล้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ก็เห็นชอบตามข้อเสนอ ในเบื้องต้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้แจ้งความประสงค์เบื้องต้นไปแล้วว่าจะซื้อวัคซีนจำนวน 200,000 โดส ในราคาโดสละ 1,300 บาท รวมเป็นเงิน 260 ล้านบาท เพื่อนำไปฉีดบริการให้กับประชาชนตามเงื่อนไขที่สภากาชาดไทยกำหนด

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกอบจ.เชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สำหรับการจัดซื้อวัคซีนดังกล่าว ทางอบจ.เชียงใหม่ เป็นผู้ใช้งบประมาณของอบจ. มาดำเนินการ ส่วนการจัดสรรวัคซีนนั้นก็ต้องเป็นไปตามที่สภากาชาดไทยกำหนดเงื่อนไขคือกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 กลุ่ม ตามลำดับ ได้แก่ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 เป็นอันดับแรก รองลงมาคือกลุ่มผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย

เนื่องจากจำนวนวัคซีนที่สั่งซื้อ 2 แสนโดสนั้น อาจจะไม่ครอบคลุมกับจำนวน 5 กลุ่มที่มีอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้อบจ.เชียงใหม่ ได้เสนอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดและคณะกรรมการบริหารวัคซีนเป็นผู้พิจารณาจัดสรร เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่าอบจ. จะนำวัคซีนดังกล่าวมาฉีดให้กับเครือญาติหรือพวกพ้อง จึงให้จังหวัดเป็นผู้บริหารแผนการขอรับการจัดสรรวัคซีนไม่เกี่ยวกับทางอบจ.เชียงใหม่ แต่ขอยืนยันว่าอบจ.เชียงใหม่ ขานรับแนวทางที่สภากาชาดไทยเสนอมาทันทีเพราะตระหนักถึงคุณภาพชีวิตและมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนทุกคน