KTC - ซื้อ (19 ก.ค.64)

KTC - ซื้อ (19 ก.ค.64)

ผลประกอบการ 2Q64: เติบโตแข็งแกร่ง

Event

กำไรสุทธิของ KTC ใน 2Q64 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+3% QoQ และ +46% YoY) ดีกว่าประมาณการของเรา 21% เนื่องจากคชจ.สำรองฯ (credit cost) ต่ำกว่าที่คาดไว้ หากไม่รวมคชจ.ดังกล่าวกำไรก่อนการตั้งสำรองฯ (PPOP) ใน 2Q64 จะดีกว่าประมาณการของเรา 2% ทั้งนี้ กำไรสุทธิในงวด 1H64 อยู่ที่ 3.3 พันล้านบาท คิดเป็น 53%ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา

lmpact

เริ่มรวม KTBL เข้ามาในงบรวมในเดือนมิถุนายน ทำให้สินเชื่อโต แต่กำไรยังเพิ่มไม่มาก

การรวมงบการเงิน Krung Thai Leasing (KTBL) ทำให้พอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 4.2 พันล้านบาท (ซึ่งประมาณครึ่งหนึ่งเป็น NPL ที่มีการกันสำรองหนี้เสียเต็มไว้เต็มจำนวนแล้ว โดยสัดส่วน LLR/สินเชื่ออยู่ที่ 60%) ทำให้พอร์ตสินเชื่อของ KTC จึงเพิ่มขึ้น 3% QoQ และ 7% YoY แต่หากไม่รวม KTBL สินเชื่อ
บัตรเครดิตจะลดลง 3% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 5% YoY ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลจะทรงตัว QoQ แต่ลดลง 3% YoY ทั้งนี้ การรวมผลการดำเนินงานของ KTBL หนึ่งเดือนเข้ามาในงบรวมไม่ได้ทำให้โครงสร้างรายได้ของ KTC ใน 2Q64 เปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยรายได้จาก KTBL ส่วนใหญ่จะถูกบันทึกใน
รายการติดตามหนี้เสีย และรายได้อื่น จากประเมินคร่าวคาดว่า KTBL จะส่งผลกำไรมาที่ KTC ประมาณ 50-60 ล้านบาทใน 2Q64 (ทั้งนี้ KTC ได้ซื้อหุ้น KTBL 75% มาจาก KTB)

การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตพลิกมาเป็นบวกจากฐานที่ตํ่า

ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น 14% YoY จากฐานที่ต่ำ (-22%) ใน 2Q63 แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขในเดือนมิถุนายนเริ่มจะติดลบ MoM ในเดือนมิถุนายน (ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรรายเดือน +41% ในเดือนเมษายน,+12.6% ในเดือนพฤษภาคม, -3% ในเดือนมิถุนายน) โดยยอดใช้จ่ายฯในงวด 1H64 เพิ่มขึ้น 4%

บริหารต้นทุนในการดำเนินงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

แม้จะมีการรวม KTBL เข้ามาในงบรวม แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเพียง 4% QoQ และ 18%YoY ใน 2Q64 และเพิ่มขึ้น 2% ใน 1H64 เท่านั้น ในขณะที่สัดส่วนต้นทุน/รายได้ใน 2Q64 ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 31% (เท่ากับใน 1Q64) และใน 1H64 (จาก 29% ใน 1H63)

คุมคุณภาพสินทรัพย์ได้ดี, NPL ลดลง, รายได้จากการติดตามหนี้เสียเท่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาด

ถึงแม้ว่า COVID-19 จะระบาดสามระลอก แต่ KTC ยังคุม NPL จากทั้งสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลได้ดี โดยสัดส่วน NPL อยู่ที่ 1.4% ติดต่อกันมา 4 ไตรมาสแล้ว และสัดส่วน NPL ของสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 2.6-3% โดยที่ยอดการตัดหนี้สูญ (write-off) ค่อนข้างนิ่ง นอกจากนี้ รายได้จากการ
ติดตามหนี้เสียก็ทรงตัวต่อเนื่องมาสามไตรมาสแล้วเท่ากับช่วงก่อนที่ COVID-19 จะระบาด

Valuation and action

KTC มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี โดยในช่วงที่ COVID-19 ระบาด แม้ว่าพอร์ตสินเชื่อจะไม่ขยายตัวแต่บริษัทยังสามารถบีบค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานให้ลดลง และยังคงรักษาคุณภาพสินทรัพย์เอาไว้ได้เรายังคงเลือก KTC เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่ม non-bank และยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2565F ที่ 91 บาท (อิงจาก P/E ที่ 29x และ PEG ที่ 1x)

Risks

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากแผนธุรกิจใหม่, NPL และค่าใช้จ่ายในการกันสำรองเพิ่มขึ้น