อ่อนตัว (16 ก.ค.64)

อ่อนตัว (16 ก.ค.64)

เก็งกำไร ASIAN BEC STARK

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1560 / 1550 จุด แนวต้าน 1580 / 1585 จุด แนะนำ เก็งกำไร ASIAN BEC STARK ทางเทคนิค ดัชนีฯ มีโอกาสอ่อนตัวลงไปทดสอบ 1550 / 1535 จุด หลังจากดัชนีฯ วานนี้ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญ 1580 จุด และการกระจุกตัวซื้อหุ้นที่มี พรีโฟลตต่ำ DELTA เพื่อหนุนดัชนีฯ (ดัชนีตลาดฯ จะปิดลบกว่า 5 จุด หากไม่รวม DELTA)

ปัจจัยบวก คือ 1. ประธานเฟดยืนยันเงินเฟ้อที่ปรับขึ้นจะเป็นเพียงชั่วคราวและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ต่ำสุดรอบ 16 เดือน ส่งผลยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี วานนี้อ่อนตัวลงมาแตะ 1.3% (จาก Peak 1.425% ต้นสัปดาห์) 2. การฉีดวัคซีนสลับชนิดกันจะเสนอต่อศบค. พิจารณาวันนี้ หากได้รับความเห็นชอบจะสามารถเริ่มสัปดาห์หน้า คาดส่งผลบวกต่อการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในระยะถัดไป

ปัจจัยลบ คือ 1. สถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศยังไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ประกอบการระบาดระลอกใหม่ในต่างประเทศที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เป็น negative sentiment ต่อสินทรัพย์เสี่ยงโลก 2. ความเพียงพอของวัคซีนต้าน COVID-19 อาจไม่เป็นไปตามคาดการณ์ หลัง AZ เผยการส่งมอบวัคซีนให้ไทย 61 ล้านโดส จะเลื่อนกำหนดออกไปจากสิ้นเดือน ธ.ค. นี้ เป็น เดือน พ.ค. 2022 3. ธนาคารโลกปรับลดเป้าหมายเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 2021E เป็น 2.2% (จากเดิม 3.4%) และกรณีแย่สุดอาจร่วงไปแตะ 1.2% หากการควบคุมการระบาดล่าช้าจนถึงสิ้น 3Q21E

ประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องติดตาม

- BoJ Meeting คาดผลประชุมวันนี้มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิมและส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจต่อไป

- ศบค. ประชุมสรุปสภาพรวมสถานการณ์ หลังล็อกดาวน์ 10 จังหวัด (อิงสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังพุ่งสูงขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่อาจต้องขยายระยะเวลาล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น คล้ายกับกรณีอินโดนีเซีย มาเลเซีย)

- รายงานผลกำไรบจ. ไทย DTAC KTC โดยจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์

- สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย. คาดดีขึ้นเป็น 0% MoM (Vs เดือน พ.ค. -1.3% MoM) หากออกมาดีกว่าคาดจะเป็นบวกต่อ 2Q21E GDP USA (BB Consensus คาดเติบโต 13% YoY, 10% QoQ Vs 1Q21 +0.4% YoY, 6.4% QoQ)

- การส่งสัญญาณสนับสนุนเศรษฐกิจรอบใหม่ของทางการจีน จะเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเอเชีย รวมถึงไทย

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย: ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด 1570.96-1580.43 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1572.01 จุด +2.31 จุด (ทั้งนี้ ดัชนีฯ จะปิดลบกว่า 5 จุด หากไม่รวมการปรับขึ้นของ DELTA ซึ่งมีผลต่อดัชนีฯ +7.80 จุด) วอลุ่มซื้อขาย 8.3 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +10.7% เหล็ก +1.83% ชิ้นส่วนยานยนต์ +0.85% ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ +0.72% หุ้นบวก >4% DELTA STARK THG TPLAS 7UP ASIAN INSET UPA ACAP THMUI ARIN FVC PIMO TMI FN RPC NEX TNPC หุ้นลบ >4% PSL JMART SITHAI ITEL TSE JMT THANA SMT DIMET TRT AKP UEC MENA

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละส่วนหุ้นยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ +0.15% (+53.79 จุด) Nasdaq -0.70% S&P500 -0.33% รับข่าวดีตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ครั้งแรก ลดลงสู่ระดับ 3.6 แสนราย ต่ำสุดตั้งแต่เดือน มี.ค. 2020 (Vs 3.86 แสนราย ในสัปดาห์ก่อนหน้า) ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอิงเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ DAX -1.01% CAC40 -0.99% FTSE100 -1.12% วิตกเศรษฐกิจชะลอตัวจากการระบาดระลอกใหม่ ส่งผลลบต่อหุ้นอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ ธนาคาร พลังงาน รถยนต์ กลุ่มเดินทาง

+/- น้ำมันดิบปิดร่วง ส่วนทองปิดบวกต่อเนื่อง: ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงเป็นวันที่สอง WTI -USD1.48 ปิดที่ USD71.65/บาร์เรล Brent -USD1.29 ปิดที่ USD73.47/บาร์เรล เพราะวิตกอุปทานที่เพิ่มขึ้น หลังซาอุฯ บรรลุข้อตกลงการเพิ่มกำลังการผลิตขั้นต่ำของ UAE ขณะที่ราคาทอง +USD4.00 (+0.22%) อยู่ที่ USD1,829.00 หลังประธานเฟดส่งสัญญาณไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้

ประเด็นสำคัญ

- เศรษฐกิจไทย: ธนาคารโลกปรับลด 2021E GDP ไทยเหลือ 2.2% (เดิม 3.4% เมื่อเดือน มี.ค.) ส่วนกรณีแย่สุดเศรษฐกิจไทยปี 2021-22E จะลดลงเหลือ 1.2% และ 2.1% หากล็อกดาวน์ยาวจนสิ้นสุด 3Q21

- การผ่อนปรนหนี้: ธปท. จับมือ สมาคมธนาคารไทยและต่างชาติ ออกมาตรการช่วยลูกหนี้ SME-รายย่อย ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง พักชำระหนี้เงินต้น-ดอกเบี้ย เป็นเวลา 2 เดือน ส่วนลูกหนี้ได้รับผลกระทบโดยอ้อม จะให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้ตามความจำเป็น ทั้งนี้ การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยภายใต้มาตรการนี้ เป็นเพียงการเลื่อนการชำระออกไป

- China: 2Q21 GDP เติบโตใกล้เคียงคาดการณ์ โดยเติบโต +7.9% YoY (Vs คาด 8% YoY และ 1Q21 +18.3% YoY) และ +1.3% QoQ (Vs คาด 1.2% QoQ และ 1Q21 +0.4% QoQ) แต่ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม การลงทุนโดยตรงเดือน มิ.ย. ปรับลดลง MoM สะท้อนเศรษฐกิจจีนมีสัญญาณชะลอตัว

+ TISCO (IAA Consensus TP 106.70 บาท): รายงานกำไรสุทธิ 2Q21 ที่ 1,666.39 ล้านบาท ดีกว่าคาดการณ์ของ Consensus 4.23% แต่เป็นผลจากการตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญ ลดลงเป็น 565 ล้านบาท (Vs 2Q20 882 ล้านบาท และ 1Q21 833 ล้านบาท)

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BEC JWD ASIAN

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: ASIAN BEC STARK

Derivatives: แนะถือ Long S50U21 ที่เปิดไว้ต้นทุน 935 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)