‘จำนำทะเบียนรถ’ พร้อมรับธปท .คลอดมาตรการอุ้มลูกหนี้

 ‘จำนำทะเบียนรถ’ พร้อมรับธปท .คลอดมาตรการอุ้มลูกหนี้

"เมืองไทยแคปปิตอล"เผยธปท.ถกวางแนวทางช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติมกรณีเป็นหนี้เสีย-ชำระหนี้ต่อไม่ไหวคาดเคาะเร็วนี้พร้อมร่วมมือ ยันคุมหนี้เสียไม่เกิน 2%เล็งปรับเป้าสินเชื่อปีนี้โต30% จากเดิมโต20% "ศรีสวัสดิ์"คาดอัดแคมเปญสินเชื่อเพิ่มหากลูกค้าต้องการใช้เงิน

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า เมื่อ 12 ก.ค.ที่ผ่านมานี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือกับบริษัทถึงมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ในกรณีถ้าลูกหนี้เป็นหนี้เสีย(NPL)ส่งค่างวดชำระหนี้ต่อไม่ไหว จะช่วยเหลือได้อย่างไรบ้างในช่วงโควิด-19ระบาดระลอก 3 รุนแรงขึ้น 

โดยมาตการดังกล่าวขอให้รอแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนจากธปท.คาดออกมาเร็วๆนี้ ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือ หวังว่าคงจะมีเงื่อนไขเป็นราย กรณี ไม่ใช่แบบทั่วไป และเปิดให้ลูกค้าที่มีความประสงค์ต้องการรับความช่วยเหลือมาลงทะเบียนก่อน เพื่อพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขหรือไม่ เหมือนทุกครั้งที่มีมาตรการธปท.ออกมา 

ปัจจุบันบริษัทยังให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง ทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ยืดระยะเวลาชำระหนี้  ซึ่งลูกค้าที่ยื่นขอความช่วยเหลือตอนนี้มีจำนวนไม่มากและยังเป็นรายเดิมๆที่ช่วยอยู่แล้ว  

ทั้งนี้ต้องติดตามว่าในช่วงล็อกดาวน์ 14 วัน จำนวนลูกค้าที่เข้ามาขอความช่วยเหลือจะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน แต่ตอนนี้สถานการณ์ยังปกติ และมั่นใจว่าจะคุมหนี้เอ็นพีเอลปีนี้ไม่เกิน 2% จากปัจจุบันยังต่ำ ซึ่งคุมไว้ที่ 1%

านการปล่อยสินเชื่อปีนี้บริษัทเตรียมปรับเป้าเติบโตเป็น 30% หรือมีสินเชื่อคงค้างมากกว่าเดิมวางไว้ที่ 84,000 ล้านบาท เติบโต 20%จากปีก่อนที่ 70,000 ล้านบาท

สำหรับครึ่งหลังปี 2564 คาดปล่อยสินเชื่อได้มากกว่าเป้าเดิม 7,000 ล้านบาท เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร ซึ่งโควิด-19ไม่กระทบมาก และครึ่งปีหลังปกติเป็นช่วงเพาะปลูก ซึ่งไฮซีซันของความต้องการใช้เงิน ขณ้ะที่ครึ่งปีแรกนี้ปล่อยได้ตามเป้าที่ 7,000 ล้านบาท เติบโต 20%

       

นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า แนวทางช่วยเหลือลูกหนี้รอบใหม่ บริษัทยังรอความชัดเจนจากธปท. ไม่ว่าแนวทางไหน หากขอความร่วมมือมาบริษัทก็พร้อม 

ส่วนความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลให้หนี้เอ็นพีเอลของบริษัทปรับตัวขึ้นบ้างแต่ไม่มาก มั่นใจปีนี้ยังคุมไว้ไม่เกิน4-5% หวังว่าสถานการณ์ต่างๆน่าจะฟื้นตัวขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ จากไตรมาส 2  ที่ผ่านมานี้ยังไม่คึกคัก และหากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นกลับมา บริษัทอาจพิจารณาอัดแคมเปญสินเชื่อรองรับความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น ยังคงเป้าสินเชื่อปีนี้ เติบโต20%