TU - ถือ (9 ก.ค.64)

TU - ถือ (9 ก.ค.64)

คืนสู่สามัญ

เราคาดกำไร 2Q21F ที่ 1.59 พันลบ. (-7% yoy, -12% qoq) โดยเรามีมุมมองเป็นกลางต่อภาพใน 2H  เนื่องจากความต้องการอาหารทะเลแช่แข็งที่สูงขึ้นจะชดเชยความต้องการอาหารทะเลแปรรูปที่ลดลงใน 2H ซึ่งเป็นช่วงจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ชะลอตัวลงหลังการเร่งฉีดวัคซีน เรามองว่าหุ้นได้สะท้อนปัจจัยบวกส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้น เราปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ และปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 20.7 บาทต่อหุ้น

 

โรงงาน Songkla Canning เปิดทำการอีกครั้งและการผลิตเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง

หลังพบพนักงานมีผลตรวจ COVID-19 เป็นบวกในโรงงาน Sonkla Canning (SCC) จึงมีการปิดโรงงานสองอาทิตย์ตั้งแต่ 20 มิ.ย. และเปิดทำการอีกครั้งใน 5 ก.ค. เราคาดผลกระทบจากยอดขายจะไม่เกิน 1% ของยอดขาย TU เนื่องจาก SCC คิดเป็นเพียง 5.1% ของยอดขายในปี 2020 ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง (PetCare)

 

คาดกำไร 2Q21F จะลดลง 7% yoy เป็น 1.56พันลบ.

เราคาดรายได้ 2Q จะทรงตัว yoy  3.27 หมื่นลบ. (-1% yoy, +5% qoq) โดยรายได้จากอาหารทะเลแปรรูปที่ลดลงจะได้การฟื้นตัวของอาหารทะเลแช่แข็ง และธุรกิจ PetCare ที่แข็งแกร่งเข้ามาช่วยชดเชย แต่เราคาดอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงเป็น 17.2% จาก 17.7% ใน 1Q  เนื่องจากสัดส่วนที่สูงขึ้นจากผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งที่มีอัตรากำไรต่ำ คาดสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายทรงตัวที่ 11.5% เราคาดกำไร 2Q21F ที่ 1.59 พันลบ. (-7% yoy, -12% qoq)

                             

แนวโน้มเป็นกลางใน 2H21

เราคาดความต้องการอาหารทะเลแปรรูป (ทูน่ากระป๋องและอาหารทะเลกระป๋องอื่นๆ) จะอ่อนแอลงใน 2H หากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ COVID-19 เริ่มที่จะชะลอตัวหลังการฉีดวัคซีนเร่งตัวขึ้น ขณะที่คาดว่าเศรษฐกิจในสหรัฐฯและยุโรปจะฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ และความต้องการอาหารทะเลแช่แข็งจะฟื้นตัวใน 2H และชดเชยความต้องการที่อ่อนแอของอาหารทะเลแปรรูป

 

ปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20.7 บาทต่อหุ้น

เรามองว่าหุ้นได้สะท้อนปัจจัยบวกส่วนใหญ่ไปแล้ว ดังนั้นเราปรับคำแนะนำลงสู่ ถือ และราคาเป้าหมายใหม่ที่ 20.7 บาทต่อหุ้น (จาก 19.60บาท) เราปรับฐาน valuation ไปเป็นปี FY22 ราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า 14.0x PER