อ่อนตัว (7 ก.ค.64)

อ่อนตัว (7 ก.ค.64)

เก็งกำไร SSP DELTA TSTH

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวรับ 1585 / 1575 จุด แนวต้าน 1596 / 1606 จุด แนะนำ เก็งกำไร SSP DELTA TSTH ทางเทคนิคจะเกิดสัญญาณซื้อเพิ่ม หาก ดัชนีฯ ยืนเหนือ 1596 จุด ปัจจัยบวก คือ 1. ประเทศในเอเชียยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยวานนี้ธนาคารกลางออสเตรเลียมีมติคงดอกเบี้ย 0.1% จนถึงอย่างน้อยปี 2024 และทำ QE ต่อไปจนถึงเดือนพ.ย. 2. ครม. มีมติสั่งซื้อวัคซีน Pfizer เพิ่ม 20 ล้านโดส และซิโนแวค 10.9 ล้านโดส และ
อนุมัติอภ. สั่งซื้อวัคซีนทางเลือก คาดส่งมอบ 4Q21E ช่วยเร่งเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ปัจจัยลบ คือ 1. การวิตกต่อข่าวการเตรียมเก็บภาษีการขายหุ้นที่ 0.11% สำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นเกิน 1 ล้านบาทต่อเดือน หลังจากถูกผ่อนผันมาตั้งแต่ปี 1991 2. การกังวลต่อ COVID-19 กลายพันธุ์ อาจส่งผลกระทบต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลลบต่อหุ้น Cyclical Stocks (ธนาคาร พลังงาน)

ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องติดตาม

       - จับตารายงานผลประชุมเฟดครั้งที่ผ่านมา (FOMC Minute) โดยจะเป็นเชิงลบต่อตลาดหากมีการส่งสัญญาณเร่งทำ QE Tapering

       - ภาครัฐฯ กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีการขายหุ้นที่ 0.11% สำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นเกิน 1 ล้านบาทต่อเดือน หลังจากถูกผ่อนผันมาตั้งแต่ปี 1991

       - การผันผวนของราคาน้ำมันดิบโลก จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางราคาของหุ้น กลุ่มพลังงานและพลังงานทดแทน

       - มติครม. สั่งซื้อวัคซีน Pfizer เพิ่ม 20 ล้านโดส และซิโนแวค 10.9 ล้านโดส ช่วยเพิ่มโอกาสของการเร่งฉีดวัคซีน เพื่อเกิดภูมิคุ้มกันหมู่และผ่อนคลายล็อกดาวน์เร็วขึ้น

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

USA-JOLT’s job opening เดือน พ.ค. คาด 9. 1mn (Vs เดือน เม.ย. 9.286mn) / China-FX Reserves เดือนมิ.ย. คาด (Vs เดือนพ.ค. USD3.22Trn) / Germany-Industrial Production เดือน พ.ค. คาด +0.3% MoM (Vs เดือน เม.ย. -1% MoM)

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกต่อเนื่อง: ตลาดหุ้นไทยเปิดบวกกว่า 8 จุด ตั้งแต่เปิดตลาดก่อนที่จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1585-1594.15 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1591.43 จุด +12.15 จุด วอลุ่มเบาบาง 6.9 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +3.46% บริการรับเหมาก่อสร้าง +2.84% อาหารและเครื่องดื่ม และเงินทุนและหลักทรัพย์ +1.31% พาณิชย์+1.28% หุ้นบวก >4% UKEM CBG COTTO RCL SSP DCC AEONTS DELTA KUMWEL
TSTH AS VPO UEC BGC UMI TIGER APCO BIZ FORTH THMUI AJA BA FSMART SANKO หุ้นลบ >4% MAJOR KGI NCL PRAPAT SLP SDC MVP SICT SKE

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดคละ DJ-0.6% (-208.98 จุด) S&P500 -0.2% แต่ Nasdaq +0.17% ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่จากแรงขายทำกำไร นำโดยกลุ่มธนาคารและพลังงาน เพราะผิดหวังต่อรายงานภาคบริการเดือน มิ.ย. ที่ลดลงและแย่กว่าคาด และแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากยิลด์พันธบัตรฯ 10 ปี ร่วงลงต่ำสุดรอบเกือบ 5 เดือน ที่ 1.356% เพราะวิตก COVID-19 กลายพันธุ์กระทบต่อการเปิดประเทศ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ DAX -0.96% CAC40 -0.91% FTSE -0.89% รับข่าวดัชนีความเชื่อมั่นยุโรปและเยอรมนีเดือน ก.ค. ลดลงเกินคาด สะท้อนความไม่แน่นอนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

+/- น้ำมันดิบปิดลบ ส่วนทองคำปิดบวก: ราคาน้ำมันดิบโลกปิดลบ WTI -USD1.79 ปิดที่USD73.37/บาร์เรล Brent -USD2.63 ปิดที่ USD74.53/บาร์เรล วิตกอุปสงค์น้ำมันดิบโลกลดลง จากการระบาดรอบใหม่ของ COVID-19 กลายพันธุ์ ส่วนราคาทองคำโลกปิดบวก +USD10.90 ปิดที่ USD1,794.20/ออนซ์ จากข่าวผลสำรวจของสภาทองคำโลกเผยว่า 1 ใน 5 ของธนาคารกลางรายใหญ่มีแผนเพิ่มทองคำในระบบในปีหน้า

ประเด็นสำคัญ

+ Australia: ผลประชุมธนาคารกลางมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.1% และ ไม่เปลี่ยนแปลง จนกว่าเงินเฟ้อจะถึงระดับเป้าหมาย 2-3% ซึ่งคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นก่อนปี 2024 นอกจากนี้ ยังคงดำเนินนโยบาย QE ต่อเนื่อง

+ ผลประชุมครม.: มีมติ 1.ซื้อวัคซีน Pfizer 20 ล้านโดส โดยคาดว่าจะนำเข้าภายใน 4Q21E หรือภายในเดือน ต.ค. นี้ 2. เยียวยากรอบวงเงิน 2,519 ล้านบาท ให้นายจ้างได้รับเงินเยียวยา 3 พันบาทต่อลูกจ้างหนึ่งคน (สูงสุดไม่เกิน 200 คน) และผู้ประกันตนตามม.33 จำนวน 2 พันบาทต่อคน

- Oil: คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้กลุ่มโอเปคพลัสเร่งหาทางออก เพราะจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

- USA: รายงานภาคบริการเดือน มิ.ย. ลดลงและต่ำกว่าคาด โดย Markit รายงานภาคบริการเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 64.6 (Vs คาด 64.8 และเดือน พ.ค. 70.4) ส่วน ISM รายงานตัวเลขที่ 60.1 (Vs คาด 63.5 และเดือน พ.ค. 64 ซึ่งเป็นระดับ all-time high)

- EU: ZEW Economic Sentiment เดือน ก.ค. ลดลงและต่ำกว่าคาดเป็น 61.2 (Vs คาด 78.9 และเดือน มิ.ย. 81.3)

- ไทย: ภาครัฐฯ กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีการขายหุ้นที่ 0.11% สำหรับนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นเกิน 1 ล้านบาทต่อเดือน หลังจากถูกผ่อนผันมาตั้งแต่ปี 1991 อาจเป็นจุดเริ่มต้นของแผนปฏิรูปภาษี แต่ยังไม่มีรายละเอียด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: TU SIS KCE

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SSP DELTA TSTH

Derivatives: แนะถือ Short S50U21 ที่เปิดไว้ รอทำกำไรเป้า 935-940 จุด (ติดตามรายละเอียดเพิ่มใน KTZ-D Report)