ปฎิบัติการบุกทั่วกรุง จับ14ผตห. ทลายเครือข่ายรับงาน12ล้าน ปั่นโซเชียลทำลายนมยี่ห้อดัง

ปฎิบัติการบุกทั่วกรุง จับ14ผตห. ทลายเครือข่ายรับงาน12ล้าน ปั่นโซเชียลทำลายนมยี่ห้อดัง

กองปราบปรามฯ เปิดปฎิบัติการทลายเครือข่ายสร้างข่าวปลอม ทำลายชื่อเสียงนมยี่ห้อดัง บุกตรวจค้น 17 จุดทั่วกรุง จับผู้ต้องหา 14 ราย แฉพฤติกรรมเคยทำธุรกิจร่วมกันแต่เกิดปัญหา ลงทุนจ้าง 12 ล้านที่ปรึกษา สร้างเพจ-สร้างประเด็นทำลายภาพลักษณ์แพร่โลกออนไลน์

ภายหลัง ตำรวจกองปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจค้นและหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 17 จุดทั่วกรุงเทพ ทลายเครือข่ายสร้างข่าวปลอม โจมตีทำลายชื่อเสียงนมข้นชื่อดัง เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา โดยการตรวจค้นครั้งนี้ เป็นผลมาจากการเข้าแจ้งความของรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท มะลิกรุ๊ป 162 จำกัด โดยมีการนำหลักฐาน เอาผิดกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังเพจเฟซบุ๊กที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ใส่ร้ายโจมตีคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และยังมีการระบุว่า นมไม่ได้คุณภาพ มีแบคทีเรีย และสารกัดบูดปนเปื้อน

ล่าสุดที่กองปราบปราม พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รองผู้บังคับการกองปราบปราม (รอง ผบก.ป.) พร้อมตำรวจกองกำกับการ 1 กองปราบปรามได้ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมขบวนการสร้างข่าวปลอมใส่ร้ายนมข้นหวานตรามะลิ พร้อมกัน 17 จุด ทั่วกรุงเทพฯ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้14 ราย พร้อมกับยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคาร, เครื่องมือสื่อสาร, อุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ เอกสารเกี่ยวกับการเงิน และอื่นๆ รวมกว่า 100 รายการ

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย.2563 ตัวแทนบริษัทนมข้นหวานชื่อดัง มาแจ้งความไว้กับตำรวจกองกำกับการ 1 กองปราบปราม ว่ามีเพจเฟซบุ๊กเผยแพร่ข้อมูลเท็จให้ร้ายกับบริษัท ตำรวจกองปราบจึงร่วมกับตำรวจกองปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) สืบสวนจนทราบว่า มีเจ้าของธุรกิจอุตสาหกรรมรายหนึ่ง ซึ่งเคยทำธุรกิจร่วมกับบริษัทของผู้เสียหาย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ โดยให้เลขาฯ และทนายความที่รู้จัก ติดต่อเจ้าของบริษัทที่ปรึกษาด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์กับพวก ให้ทำลายภาพลักษณ์บริษัทของผู้เสียหาย

พล.ต.ต.มนตรี ระบุอีกว่า การติดต่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านโฆษณา มีการตกลงจ่ายค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 12 ล้านบาท พร้อมกับมีการแบ่งจัดสรรหน้าที่ พร้อมกับรวบรวมข้อมูลบริษัทผู้เสียหายมาสร้างประเด็นเพื่อทำลายภาพลักษณ์ และยื่นหนังสือตรวจสอบคุณภาพกับหน่วยงานของรัฐ และไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำลายคู่แข่ง โดยให้คู่ค้าเลิกวางจำหน่ายสินค้าดังกล่าว

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า ผลปฏิบัติการครั้งนี้ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 14 ราย ในข้อหา “ร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา, เป็นอั้งยี่และซ่องโจร, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันบิดเบือนโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน”

“จากนี้จะสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมว่ามีรายละเอียดอื่นนอกจากการทำลายคู่แข่งหรือไม่ ยืนยันว่าตำรวจมีหลักฐานในสำนวนแล้ว ไม่หนักใจเพราะทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีการกลั่นแกล้ง ทั้งนี้ยังไม่พบว่ามีการโจมตีบริษัทอื่น ทั้งนี้ ขอฝากประชาชนให้ตรวจสอบข้อมูลข่าวสารก่อนเผยแพร่ก่อนทุกครั้งก็เพื่อประโยชน์ของตัวเอง” พล.ต.ต.มนตรีระบุ