พฤกษาแนะเร่งนำเข้า-จัดความสำคัญฉีดวัคซีนปรับแผน120วันเปิดเฉพาะ‘เมืองท่องเที่ยว’

พฤกษาแนะเร่งนำเข้า-จัดความสำคัญฉีดวัคซีนปรับแผน120วันเปิดเฉพาะ‘เมืองท่องเที่ยว’

ซีอีโอพฤกษาประเมินตัวเลขฉีดวัคซีนต่ำเปิดประเทศยากแนะทบทวนแผนเปิดประเทศ120วันเฉพาะ‘เมืองท่องเที่ยว’ เร่งนำเข้าวัคซีน-จัดความสำคัญฉีดวัคซีน

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศแผนเปิดประเทศ120 วัน พร้อมเป้าหมาย ‘ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19’ ให้ได้ 10 ล้านโดสต่อเดือน เพื่อให้ครอบคลุมประชากรที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มจำนวน 50 ล้านคนภายในต้นเดือนต.ค.นี้ กลับพบว่าการแพร่ระบาดระลอก 3 ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น สะท้อนผ่านจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มทำตัวเลขนิวไฮ และแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่มีทีท่าจะลดลง

จัดความสำคัญฉีดวัคซีนใน120วัน

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามเงื่อนไขเปิดประเทศควรจะต้องฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส หรือ 70% ของประชากร จำนวน 50 ล้านคนขึ้นไปถึงจะเปิดประเทศได้ แต่วันนี้ฉีดได้เพียง 10 ล้านโดส หรือราว 5 ล้านคน และอัตราการฉีดต่อคนอยู่ประมาณ 3 แสนโดสต่อวัน หากจะเปิดประเทศในอีก3 เดือนข้างหน้าตามแผน120 วัน เฉลี่ยต้องฉีดได้วันละ1ล้านโดส ซึ่งเป็นไป “ไม่ได้ ”

หากถึงสิ้นปีกรณีเลวร้ายสุดต้องเร่งฉีดให้ได้ 100ล้านโดส เท่ากับต้องฉีดให้ได้วันละ5แสนโดส แต่ปัจจุบันยังไม่ถึงเพราะ ส่วนหนึ่งจากปัญหา “วัคซีน” มาล่าช้า ประกอบกับโควิดสายพันธุ์เดลตาจากอินเดียที่ระบาดวัคซีนซิโนแวคเอาไม่อยู่ ควรที่จะต้องเป็นแอสตร้าเซนเนก้า โมเดอร์นา จึงเป็นเรื่องน่ากังวลอย่างมากในขณะนี้

“เรื่องใหญ่เรื่องแรกเวลานี้ คือ ปัญหาการจัดการวัคซีนที่รัฐบาลต้องเร่งนำเข้ามารวมถึงการจัดหาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า โมเดอร์นา ไฟเซอร์เพื่อสกัดโควิดสายพันธุ์อินเดีย เรื่องที่สองคือการจัดลำดับสำคัญในการฉีดวัคซีนในแต่ละกลุ่ม เช่น โรงงานอุตสาหกรรมอาหาร มิเช่นนั้นอาจเกิดคลัสเตอร์ เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แคมป์คนงานก่อสร้างที่ต้องเร่งฉีด เพราะเป็นอุตสากรรมที่ช่วยในการขับเคลื่อนประเทศ ถ้าไม่รีบฉีดวัคซีนจะเป็นปัญหาคลัสเตอร์ใหญ่ตามมา ล่าสุดมีการปิดแคมป์ก่อสร้าง ฉะนั้นรัฐบาลต้องลำดับความสำคัญแล้วเร่งฉีดก่อนเกิดคลัสเตอร์ต่างๆ ขึ้นมา”

ปรับแผนเปิดประเทศเน้นเมืองท่องเที่ยว

นายปิยะ ย้ำกว่า วัคซีนยังเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐต้องบริหารจัดการไม่ให้เกิดความล่าช้าของระบบนำเข้าวัคซีน และต้องเป็นวัคซีนที่ใช้สกัดการแพร่ระบาดสายพันธุ์เดลต้าได้ด้วย ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องจัดลำดับความสำคัญในการฉีดวัคซีนให้เหมาะสมทั้งนี้แผนเปิดประเทศ120 วันอาจจะต้องปรับใหม่ โดยเปลี่ยนมาเป็นเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวหลักเหมือน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” อาทิ เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง กรุงเทพฯ

"หากจะเปิดประเทศใน120 วันต้องฉีดวัคซีนวันละ1 ล้านโดส แต่แค่5แสนโดสต่อวันก็เป็นเรื่องยากจึงน่าจะเปลี่ยนไปเปิดในจังหวัดท่องเที่ยวแล้วระดมฉีดในแต่ละพื้นที่ไปมีโอกาสความเป็นไปได้มากกว่าจะเปิดประเทศใน120วัน ช่วงเวลานี้ทุกคนต้องดูแลตนเองให้ดีที่สุด เพราะไม่มีใครช่วยใครได้ ต้องพึ่งตัวเองก่อนด้วยการป้องกันตัวเองจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นเพราะอยู่ในภาวะวิกฤติโรคระบาด”

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์จะเลวร้ายไปถึงขึ้นไหนนั้นขึ้นอยู่กับวัคซีน ถ้ามองในแง่บวกไตรมาสสี่น่าจะพอไปได้ เพราะวัคซีนน่าจะฉีดไปได้จำนวนมากแล้ว หากฉีดได้วันละ 5 แสนโดสตามแผนในสิ้นปีได้ถึง 50 ล้านคน เมื่อถึงเวลานั้นจังหวัดใหญ่น่าจะได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมกันหมดแล้วสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ระดับหนึ่ง