อลหม่าน “สภาฯล่ม” เกมตั้งใจ “รัฐบาล - ฝ่ายค้าน"

       กลายเป็นเรื่องจนได้ เมื่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 30 มิถุนายน 64 ล่มไม่เป็นท่า เพราะมี ส.ส. ร่วมแสดงตนเพียง 206 คน จากจำนวนที่ต้องประกอบเป็นองค์ประชุม 242 คน จากยอดสมาชิกที่มีทั้งหมด 484 คน

       เรื่องนี้กลายเป็น “พรรคพลังประชารัฐ” ฐานะแกนนำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องเสียรังวัดครั้งใหญ่

       เพราะเรื่องที่พิจารณาอยู่นั้นคือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วัตถุอันตราย (ฉบับที่...) พ.ศ.... ที่พิจารณาต่อเนื่องมาจากการประชุมสภาฯ เมื่อ 16 มิถุนายน และเพิ่งผ่านวาระสองไปเพียงแค่ 5 มาตราเท่านั้น

       เหตุที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องเสี่ยงรังวัด เพราะนอกจากเป็นผู้คุมเกมในสภาฯ แล้ว ต้องควบคุมให้การผ่านร่างกฎหมายของรัฐบาลให้สำเร็จ และ ลุล่วง

       สิ่งที่พบ คือ ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐจาก 120 คน พบการแสดงตนเพียง 9 คน และ ส.ส.ที่ไม่ร่วมแสดงตน กลับพบว่าก่อนหน้านั้นปรากฏหน้าต่อที่ประชุม ช่วงหารือ

       อาทิ กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.​ รวมถึง วิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานวิปรัฐบาลร่วมด้วย

       ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบว่า ส.ส.ร่วมรัฐบาล ยังหายจากการแสดงตน อย่างมีนัยสำคัญ คือพรรคภูมิใจไทยที่พบการแสดงตนเพียง 8 คน จากยอดส.ส. 61 คน

       ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า กลุ่มขั้วรัฐบาลกำลังเล่นเกมอะไรกัน

       เมื่อดูสุ้มเสียงจาก “ส.ส.ภูมิใจไทย” อย่าง “ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย” ที่กล่าวกับที่ประชุมสภาฯ ให้ “รัฐบาล” ถอนร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ออกจากการพิจารณา เพื่อทบทวนเนื้อหาใหม่ เพราะเห็นว่าเนื้อหานั้นมีปัญหาเกินกว่าจะรับได้

       ทำให้เห็นความชัดเจนของกระบวนในพรรค และจุดยืนของพรรค ที่สนับสนุนความคิดของ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่คัดค้านการใช้สารพิษอันตรายเพื่อทำการเกษตร และที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยแสดงท่าทีชัดเจน ต่อการไม่เห็นด้วยที่จะผ่อนปรนการใช้สารเคมี ตามที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดปัจจุบัน ตามกฎหมายปัจจุบัน พิจารณา “ไม่แบน 3 สารเคมีอันตราย”

       การไม่กดบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุมของ 53 ส.ส.พรรคภูมิใจไทยใช่ว่า “วิปรัฐบาล” จะไม่รับรู้

       ก่อนหน้านี้ มี “มติวิปรัฐบาล” ขอให้ ส.ส.ร่วมรัฐบาล เว้นการลงชื่อเพื่อร่วมประชุม เพื่อหวังให้ “สภาฯล่ม” ก่อนเปิดวาระพิจารณา ร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย

       เพราะดูสถานการณ์ที่ “ส.ส.พลังประชารัฐ” ที่ลาประชุม ทำให้เสียงในสภาฯ ปริ่มน้ำ ดังนั้นจึงกังวลว่าหาก ให้ลงมติ แล้ว “ฝั่งรัฐบาล” แพ้ “ฝั่งฝ่ายค้าน” จะเกิดผลเสียส่งตรงถึงกลุ่มขั้ว-ขาใหญ่ ในพรรคพลังประชารัฐ อย่างหาทางแก้ลำได้ลำบาก

       แม้ ส.ส.ร่วมรัฐบาล ไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้ “ฝ่ายค้าน” ขยี้ในเกมการเมืองได้แบบง่ายๆ แต่ ด้วยกติกาการอยู่ร่วมกันของ "วิปรัฐบาล” จึงขอให้เคารพและปฏิบัติตามเกม

       ผลหลัง “สภาฯล่ม” เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อ “ส.ส.ฝ่ายค้าน” ทั้ง “เพื่อไทย“ และ “ก้าวไกล” ลุกไล่ ให้ “ยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ เพราะ ขั้วร่วมรัฐบาลไม่สามารถคุมเสียงข้างมากในสภาฯได้ ทั้งที่เป็นวาระพิจารณาสำคัญเป็นร่างกฎหมายของรัฐบาล”

       อย่างไรก็ดี การไม่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมของ ส.ส. ในสภาฯ ใช่ว่าจะมีเพียง พรรคพลังประชารัฐ หรือ พรรคภูมิใจไทย เท่านั้น หากดูจาก ส.ส.ฝ่ายค้าน อย่างเพื่อไทยมีผู้ที่ไม่มาแสดงตนถึง 62 คน จากจำนวน ส.ส.133 คน พรรคก้าวไกล 14 คน จากจำนวน ส.ส. 53 คน

       แม้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มาแสดงตนจนครบองค์ประชุม ก็ใช่ว่า “ส.ส.ฝ่ายค้าน” จะยอมให้ผ่านร่างพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ไปได้ง่ายๆ เพราะตามจุดยืนของ พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล คือ ต้องการให้ แบน 3 สารเคมีอันตราย และมองว่าสิ่งที่ทำได้คือการแก้ไขกฎหมาย กำหนดกติกาให้เข้มข้น ไม่ใช่ปล่อยให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายใช้ดุลยพินิจตามใจ ไร้กฎ ไร้เกณฑ์

       ดังนั้น เกมที่ปรากฏในสภาฯรอบนี้ คือความอลม่าน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำ ย่อมตกเป็นเหยื่อของคู่ต่อสู้

       ตามที่ นายหัวชวน หลีกภัย นักการเมืองรุ่นเก๋า กล่าวกับที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 30 มิถุนายน ว่า "เวลาเลือกตั้งจะรู้ว่าการอยู่ในที่ประชุมหรือไม่ เป็นเหยื่อคู่ต่อสู้ของท่านอย่างไร”.