AOT - ถือ (30 มิ.ย.64)

AOT - ถือ (30 มิ.ย.64)

ประมาณการ 3Q21: สถานการณ์ยังไม่แน่ไม่นอน

เราคาดว่า AOT จะขาดทุนจากธุรกิจหลัก 3.9 พันล้านบาท ใน 3Q21F เนื่องจากรายได้ลดลง QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน และประหยัดต้นทุนได้ไม่มากนัก ในขณะเดียวกัน แม้ว่าโครงการ Phuket sandbox อาจจะช่วยสนับสนุนภาวะตลาดในระยะสั้น แต่เราคาดว่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2022 ในขณะเดียวกัน เราพบว่าราคาหุ้น AOT อยู่ในกรณีเลวร้ายที่สุด (มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคนในปี 2022 และเพิ่มเป็น >40 ล้านคนภายในปี 2025) และคงมี downside จำกัดแล้ว  เรายังคงคำแนะนำถือ เนื่องจากมองว่า upside ก็จำกัดเช่นกัน

 

จะขาดทุนอย่างหนักเพราะการระบาดระลอกสามทำให้จำนวนผู้โดยสารในประเทศฟื้นตัวช้าเกินคาด

เราคาดว่าผลขาดทุนจากธุรกิจหลักใน 3Q21F จะอยู่ที่ 3.9 พันล้านบาท แย่ลงทั้ง QoQ และ YoY จากที่ขาดทุน 3.7 พันล้านบาทใน 2Q21 และ  2.6 พันล้านบาทใน 3Q20 โดยผลขาดทุนก้อนใหญ่ใน 3Q21F เป็นเพราะรายได้ลดลง QoQ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารในประเทศยังไม่ฟื้นตัวมากนักจากการที่ COVID-19 กลับมาระบาดระลอกสามในช่วงกลางเดือนเมษายน ก่อนที่จะถึงจุดต่ำสุดในกลางเดือนพฤษภาคม  และฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อยในเดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศยังจำกัดมากเพราะยังมีการบังคับใช้มาตรการกักตัว ทำให้เราคาดว่ารายได้รวมจะอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+1% YoY, -7.5% QoQ)

 

การวิเคราะห์ sensitivity แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้น AOT อยู่ในกรณีเลวร้ายที่สุด

ในขณะที่เรากำลังรอให้โครงการ Phuket sandbox เริ่มเปิดเฟสแรกในวันที่ 1 กรกฎาคม เรายังคงยืนยันผลการวิเคราะห์ sensitivity ของเรา (fig. 6-7) ว่า AOT กำลังขยับในระดับใกล้เคียงกับกรณีเลวร้ายที่สุดแล้ว (จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 10 ล้านคนในปี 2022 และจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในปี 2025) โดยประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 62 บาท อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงว่า AOT อาจจะปรับสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติใหม่ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม (จากที่ปรับครั้งล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์

 

คงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวไปเรียบร้อยแล้ว

เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มการฟื้นตัวมากกว่า AOT, ธปท. และสภาพัฒน์ฯ โดยคาดว่าผลประกอบการของ AOT จะฟื้นตัวจากอุปสงค์ pent-up demand (แบบเดียวกับในจีน และสหรัฐ) เมื่อมีการกลับมาเปิดพรมแดนของประเทศอีกครั้ง และมีการใช้มาตรการ travel bubbles ถึงแม้ว่าสายพันธุ์ใหม่ variant C19 จะทำให้ตลาดเป็นกังวลกับโมเมนตั้มของการกลับมาเปิดประเทศ แต่เราเชื่อว่ายอดฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้สามารถเปิดประเทศได้อย่างมั่นคงในปี 2022 อย่างไรก็ตาม เรายังคงคำแนะนำ ถือ เนื่องจากมี upside จำกัด