ยูโร 2020 ได้ครบ 16 ทีมแล้ว หลัง ฝรั่งเศส-เยอรมัน-โปรตุเกส พร้อมใจเจ๊าจูงมือเข้ารอบ

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม 2 นัดสุดท้าย กลุ่มเอฟ เป็นที่จับตา และให้ความสนใจจากแฟนบอลอย่างมาก เพราะถือเป็นกรุ๊ป ออฟเดธ ที่มีทั้ง ฝรั่งเศส เยอรมัน และโปรตุเกส โดยในนัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เยอรมัน กับ ฮังการี และ ฝรั่งเศส กับ โปรตุเกส ซึ่งทุกทีมต่างต้องการ 3 แต้มเพื่อการันตีเข้ารอบ

เริ่มที่การพบกันระหว่างคู่ของ อินทรีเหล็กเยอรมัน และทีมชาติฮังการี ที่นัดนี้ดูเหมือนเยอรมันจะเป็นต่อ และมีโอกาสเข้ารอบสูงเมื่อเทียบกับชื่อชั้นฟุตบอลของฮังการี แต่ก็เป็นทางนักเตะฮังการีที่เค้นฟอร์มเก่งขึ้นมาวัดฝีเท้ากับนักเตะเยอรมันได้อย่างสนุก โดยทีมชาติฮังการี ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 11 ทำให้นักเตะเยอรมันเสียกระบวนไปพอสมควร ขณะที่เกมก็ยังคงเข้าทางเยอรมัน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้จนจบครึ่งแรก 

เกมมาเปิดมากขึ้นในครึ่งหลัง เพราะความกดดันของการไล่ตามฮังการีอยู่ 0-1 ทำให้พวกเขาต้องหาทางตีเสมอ มาถึงนาทีที่ 66 ก็เป็นโอกาสของเยอรมันสามารถพังประตูได้จากลูกโหม่งของไค โฮเวิร์ด แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 นาที ฮังการีก็กลับขึ้นมานำอีกจากลูกโหม่งของ แอนดราส ชาเฟอร์ และยิ่งสร้างความกดดันให้เยอรมัน โหมบุกเพื่อหวังประตูตีเสมอ จนกระทั่งนาทีที่ 84 เยอรมันก็มาได้ประตูตีเสมอ ทำให้ผลการแข่งขันคู่นี้ เสมอกันไป 2-2 

ด้านการแข่งขันระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โปรตุเกส ก็เชียร์กันสนุกไม่แพ้กัน เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการเก็บ 3 แต้มสำคัญในนัดนี้ให้ได้ เปิดเกมมาทั้ง 2 ทีมต่างทำเกมเพื่อสร้างโอกาสในการยิงประตูแรกให้ได้ แล้วก็เป็นฝ่ายโปรตุเกสที่ออกนำไปก่อนจาก ลูกจุดโทษ หลังเกมผ่านไปได้ ครึ่งชั่วโมง

ต่อมา ช่วงท้ายครึ่งแรก ก็เป็นทางด้านฝรั่งเศสที่ได้จุดโทษบ้าง ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันไป 1-1 หลังจากเริ่มเกมในครึ่งหลัง ฝรั่งเศสก็เปิดเกมบุกอย่างรวดเร็ว เพียง 2 นาทีเท่านั้น ฝรั่งเศสก็สร้างจังหวะยิงประตูจาก พอล ป็อกบา ผ่านบอลให้ คาริม เบนเซม่า หลุดเข้าไปยิงประตูทำให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ 2-1 

จากนั้น โปรตุเกสก็พยายามเร่งเกมเพื่อหวังประตูตีเสมอ จนโอกาสเป็นของนักเตะฝอยทองอีกครั้ง เมื่อผู้เล่นฝรั่งเศสทำแฮนด์บอลในเขตโทษ กลายเป็นลูกจุดโทษ และคริสเตียโน่ โรนัลโด ก็ไม่พลาด ยิงให้โปรตุเกสตีตื้นขึ้นมาเป็น 2-2 

เกมยังคงเป็นไปอย่างดุเดือดจากจังหวะการบุกของทั้ง 2 ทีม และการสร้างสรรค์โอกาสทำประตู แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ ในที่สุดจบเกม เสมอกันไป 2-2 ฝรั่งเศสเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ขณะที่โปรตุเกสเข้ารอบในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด