‘พัทยา มูฟออน’ 120 วันเปิดประเทศ ทำได้จริง?

‘พัทยา มูฟออน’  120 วันเปิดประเทศ ทำได้จริง?

สเตปต่อไปจาก “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”จะเป็น“พัทยา มูฟออน”ในเดือนส.ค.นี้พร้อมกับการนับถอยหลัง ‘120วันในการเปิดประเทศ’จะเป็นไปได้จริงไหมในสายตาของ “มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ”นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี

“มีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ ”นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขีดเส้นเปิดประเทศทั้งประเทศให้ได้ภายใน 120 วันเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา หรือภายในเดือน ต.ค.นี้ หากให้ประเมินความรู้สึกของประชาชนหรือนักธุรกิจคงไม่มั่นใจ 100% เพราะที่ผ่านมายังมีข้อติดขัดหลายเรื่อง เช่น วัคซีน ที่ทำให้ประชาชนผิดหวังพอสมควร ทั้งการเลื่อนฉีด หรือวัคซีนที่จะนำมาฉีดในจังหวัดชลบุรี แม้ว่าจะได้เพิ่มขึ้นจากเดิม แต่ได้มาแค่ตัวเลข ตัววัคซีนยังไม่มา ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไร และได้มากน้อยแค่ไหน

แต่ประเด็นที่อยากให้ความสำคัญก็คือ การจะเปิดประเทศ ควรจะต้องเตรียมความพร้อม ไม่ใช่ ปุ๊บปั๊บเปิด ต้องดูว่าทุกอย่างพร้อมไหม ทั้งแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร สถานบันเทิง เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาปิดไปเป็นระยะเวลานาน เมื่อจะเปิด ‘จำเป็น’ ต้องเตรียมตัวพอสมควร เพราะที่ผ่านมามีแต่เรื่องการเยียวยาชดเชย ความทุกข์ยากเดือนร้อนของประชาชน แต่ ‘ไม่มี’ การเตรียมความพร้อมให้ธุรกิจสามารถเปิดดำเนินการเพื่อรองรับการเปิดประเทศล่วงหน้า

มีศักดิ์ ประเมินว่า หลังจากนี้ไปหลายๆ ประเทศที่ฉีดวัคซีนและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้จนประชาชนสามารถออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ คาดว่าเร็วๆ นี้ หลายประเทศก็คงจะเปิดมากขึ้น โดยเฉพาะจีนหากเปิดประเทศเชื่อว่านักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวไทย เมื่อถึงเวลานั้นไทยจะสามารถเปิดประเทศได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า สามารถฉีดวัคซีนได้ตามแผนครอบคลุม 70% ของประชากร หรือ 50 ล้านคน ใช้​วัคซีน 100 ล้านโดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้หรือไม่

ในส่วนของภาคเอกชน ธุรกิจต่างๆ พยายามเตรียมพร้อม เพราะเชื่อว่า เมื่อเปิดประเทศจะมี “ดีมานด์อั้น” จากต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวมหาศาล

ในส่วนของชลบุรี พัทยาได้เตรียมความพร้อมดัน “พัทยา มูฟออน” (Pattaya Move On) ซึ่งจะคิกออฟในเดือน ส.ค.นี้ ถือเป็นความคิดที่ดี แต่อยากให้ความสำคัญในรายละเอียดในแต่ละธุรกิจ มีความพร้อมหรือยัง เพราะเท่าที่ทราบพนักงานที่หยุดพักงานเดินทางกลับบ้านไปไม่ต่ำกว่า 70-80% ฉะนั้นการดึงให้กลับมาทำงานอีกครั้ง “ไม่ใช่” เรื่องง่าย

“ผมว่าขึ้นอยู่กับวัคซีน ถ้าสามารถฉีดครบ 2 เข็ม เกิดภูมิคุ้มกันหมู่จะทำให้เกิดความมั่นใจในการเปิดประเทศ ซึ่งต้องใช้เวลา ไม่อยากให้เร็วจนเกินไป เพราะถ้าเปิดแล้วเกิดโควิดระลอก 4 ขึ้นมา จะน่ากลัวมากเพราะการฟื้นความมั่นใจนักท่องเที่ยวให้กลับมายาก จึงอยากให้มั่นใจ 200% ก่อนเปิดประเทศ”

มีศักดิ์ ระบุว่า ในช่วงที่ผ่านมาทุกครั้งที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ไทยจะเป็นประเทศแรก ที่จะได้รับผลดี และหนึ่งในจังหวัดที่ได้รับผลดีคือ ชลบุรี พัทยา ที่คนจีนนิยมมาเที่ยวและซื้ออสังหาฯ ทั้งคอนโดและแนวราบ แต่ที่ผ่านมารัฐยังไม่อนุญาตให้ต่างชาติซื้อแนวราบได้ จึงมีบางส่วนที่ซื้อกันผ่านนอมินี ซึ่งไม่ถูกต้องและทำให้คนจีนบางคนไม่กล้าซื้อ ซึ่งหากภาครัฐต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้นตัว การขายอสังหาฯให้กับต่างชาตินั้นเป็นอีกหนทางหนึ่ง

"การขายอสังหาฯให้ต่างชาติ ถ้ามองเนื้อในจริงๆ ไม่ได้มีเจตนาขายชาติ เพราะในภาคธุรกิจ ภาควิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ทุกคนมองเหมือนกันว่า เครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของไทยตอนนี้ค่อยๆ ดับไปเรื่อยๆ ขณะที่ประเทศคู่แข่งทางการค้าอย่างจีน เวียดนาม อินโดนีเซียติดเครื่องไปกันใหญ่ ถ้าเราโฟกัสด้านอุตสาหกรรมซึ่งเป็นเครื่องจักรทางผลักดันจีดีพีของประเทศในอดีต ในทศวรรษต่อไปคงพึ่งพาไม่ได้ "

ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมองหาตัวที่เข้ามาทดแทนได้คือ “อสังหาฯ” ด้วยการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาซื้อ ให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจและลงถึงระดับรากหญ้าได้มากกว่าระบบอุตสาหกรรม และยังมีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น สามารถพัฒนาระบบการรักษาพยาบาล การดูแลเรื่องสุขภาพ ให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยว น่าจะเป็น โอกาสที่ดีในการสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต