ปตท.ตั้งทีมรุกตลาดแอลเอ็นจี เจาะส่งออกเป้าหมายโต 3 เท่า

ปตท.ตั้งทีมรุกตลาดแอลเอ็นจี เจาะส่งออกเป้าหมายโต 3 เท่า

ปตท.ปรับโครงสร้างธุรกิจ LNG แยกหน่วยงานเจาะตลาดเชิงพาณิชย์ รุกส่งออก ตั้งเป้าโตเพิ่มจากปี 2563 ถึง 3 เท่าตัว หนุนนโยบายรัฐปั้นไทยฮับภูมิภาค

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ปัจจุบัน ปตท.ได้ปรับโครงสร้างธุรกิจก๊าซฯ โดยแยกหน่วยงานที่จะดูแลการทำตลาดเชิงพาณิชย์(มาร์เก็ตติ้ง) ออกมาโดยเฉพาะ เพื่อผลักดันสู่เป้าหมายฮับส่งออก LNG ในภูมิภาค โดยการส่งออก LNG ในปีนี้ ในส่วนของ LNG Reloading ยังขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เหมาะสม และต้องคำนึงถึงราคา LNG ด้วย

“ในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง และ ISO Tank Container ปตท.ตั้งเป้าหมายจะมีปริมาณส่งออกเติบโตขึ้น 3 เท่าจากปีก่อน เพราะตอนนี้เราได้จัดโครงสร้างทำเรื่องมาร์เก็ตติ้งโดยเฉพาะ และเป็นการยืนยันว่าเราพร้อมเป็น LNG Hub”

ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปี 2564 ปตท. ได้ดำเนินโครงการ LNG Reloading Cargo ครั้งแรก โดยการนำ LNG ที่จัดซื้อเข้ามาแล้วนำมาจัดเก็บไว้ใน Tank แล้วนำกลับใส่เข้าไปในเรือขนส่ง LNG เพื่อส่งออก ทำให้เกิดส่วนต่างราคา เนื่องจากเป็นการดำเนินการในช่วงที่ Spot LNG ตลาดโลกมีราคาแพง ขณะที่ต้นทุนสินค้าที่ปตท.นำเข้ามาภายใต้สัญญาซื้อขาย LNG มีราคาถูกกว่า สามารถส่งเงินคืนให้รัฐ ประมาณ 800 ล้านบาท

อีกทั้ง ยังมีการส่งออก LNG ทางรถยนต์ไปประเทศกัมพูชา สำเร็จเป็นครั้งแรก เบื้องต้น มีปริมาณขนส่ง ประมาณ 4-5 Cargo รวมถึง ได้ส่งออก LNG ทางเรือ ไปยังประเทศจีน ในรูปแบบ ISO Tank Container

นายอรรถพล ยังกล่าวอีกกรณีที่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ยุติการพัฒนาโครงการโมซัมบิก แอเรีย วัน จากกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นที่เมือง Palmaว่า กรณีดังกล่าวเป็นการยุติเพียงชั่วคราวเท่านั้น เท่าที่รับทราบข้อมูลทางรัฐบาลโมซัมบิก ได้เข้าไปควบคุมสถานการณ์ได้พอสมควร หากปลอดภัย 100% แล้ว ถึงจะส่งพนักงานเข้าไปปฏิบัติการในพื้นที่ต่อ ดังนั้น โครงการนี้อาจจะสะดุดไปบ้างแต่ไม่ยุติโครงการแน่นอน