JASIF (17 มิ.ย.64)

JASIF (17 มิ.ย.64)

ผลการดำเนินงานไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด

  • What’s new

กำไรสุทธิเติบโต 3.5% yoy ใน 1Q21

JASIF มีกำไรสุทธิเติบโต 3.5% yoy สู่ 2.2พันลบ. ใน 1Q21 เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง (363ลบ.) ขณะที่รายได้ทรงตัวที่ (2.5พันลบ.) กำไรที่จัดสรรได้ (กำไรสุทธิไม่รวมขาดทุนจากการประเมินมูลค่าทรัพย์สินและการชำระหนี้สิน) ลดลง 12.4% เป็น 1.8พันลบ. บริษัทจ่ายปันผล 0.24บาทต่อหุ้น เทียบเท่าการจ่าย 108.5% ของกำไรที่จัดสรรได้ อัตราหนี่สินต่อทุนทรงตัวที่ 0.17x ณ สิ้นเดือน มี.ค.

 

  • Analysis

ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด

กองทุนได้รับผลกระทบจาก COVID-19 น้อยมากจากความต้องการ internet ที่เพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ของการทำงานที่บ้าน, ความบันเทิงและ Internet of Thing ซึ่งนิยมใช้เคเบิ้ลเนื่องจากค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า ใช้ได้ไม่จำกัดและใช้ได้หลายคน  กองทุนมีรายได้ที่แน่นอนตามสัญญาเช่า (Chart 7) 

 

ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ

จากแนวโน้มเงินเฟ้อขาขึ้น กองทุนจะได้รับประโยชน์จากค่าเช่าที่สูงขึ้น โดยค่าเช่าจะเติบโตสอดคล้องกับเงินเฟ้อแต่ไม่เกิน 3% (ต่ำสุด 0%) ค่าเช่าปัจจุบันอยู่ที่ 436.29บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือนสำหรับค่าเช่าหลัก (80% ของเส้นใยแก้วนำแสง) และ 769.91บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือนสำหรับประกันรายได้ค่าเช่า (20% ของเส้นใยแก้วนำแสง) 

 

การจ่ายคืนเงินต้นสูงขึ้นใน 2021

กองทุนจะจ่ายคืนเงินต้นของเงินกู้ 800ลบ. ในปีนี้เทียบกับ 300ลบ. ในปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงกำไรที่จัดสรรได้จะลดลง

 

ความไม่แน่นอนของการขยายสัญญาเช่า

กองทุนมีเงื่อนไขในการต่อสัญญาเช่าไปอีก 10 ปี (29 ม.ค. 2032- 28 ม.ค. 2042) หากรายได้จากการให้บริการอินเตอร์เน็ต ของ TTTBB ถึงระดับ 4.0หมื่นลบ.ในปี 2030  สะท้อนว่า TTTBB ต้องสร้างการเติบโตของรายได้ 8.2% ต่อปีในช่วง 2020-2030 ซึ่งค่อนข้างท้าทายเมื่อเทียบกับการเติบโตเพียง 4.6% ในช่วงปี 2016-2020 นอกจากนี้ 3BB ได้เสียส่วนแบ่งตลาด (จาก 34% ใน 2016 เป็น 30% ใน 2020) ให้กับ AIS และ TOT รวมถึงรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้ลดลง (chart 8) ในกรณีที่แย่ที่สุดกองทุนอาจจะขายทรัพย์สินและปิดกองทุนลง ในกรณีที่ดี TTTBB อาจจะขยายสัญญาหากต้องการดำเนินธุรกิจต่อ หรือ JASIF สามารถหาลูกค้าใหม่ได้      

 

  • Action/ Recommendation

IRR ไม่น่าสนใจ

ที่ราคาปิดล่าสุด JASIF มีผลตอบแทนเงินปันผล 9.7% ใน 1Q21 (ปรับเต็มปี) เราวิเคราะห์ความอ่อนไหวและพบว่า IRR อยู่ในระดับที่ไม่น่าสนใจที่ 2.7% สมมติฐานว่าสัญญาเช่าสิ้นสุดลงในปี 2032 และค่าเช่าเพิ่มขึ้น 3% ต่อปี ทั้งนี้เราไม่ได้รวมมูลค่าซากของทรัพย์สิน, IRR จะลดลงเป็น 1.9% หากค่าเช่าเพิ่ม 2% ต่อปี, IRR 1.1% หากค่าเช่าเพิ่ม 1% ต่อปี และ IRR 0.2% หากค่าเช่าคงที่