อาจมีแรงขายระยะสั้นแต่ไม่กระทบมุมมองหลัก

อาจมีแรงขายระยะสั้นแต่ไม่กระทบมุมมองหลัก

สัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าเดิมอาจกระทบจิตวิทยาการบลงทุนระยะสั้น

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ/เดือน ไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม มุมมองอัตราดอกเบี้ยของกรรมการรายคน (Dot plot) สะท้อนมุมมองการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วขึ้น แม้มุมมองการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกยังน่าจะอยู่ในปี 2566 เช่นเดิม แต่กรรมการ 13 จาก 18 คน สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง (เพิ่มจาก 7 คน) ขณะที่กรรมการ 11 คนมองว่าควรขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้ง ทำให้ตลาดอาจตอบรับเชิงลบในระยะสั้น อย่างไรก็ตามการส่งสัญญาณโดยรวมแม้ผ่านจุดที่ผ่อนคลายที่สุด แต่ก็ยังเป็นสภาวะที่ผ่อนคลายอย่างมาก ซึ่งเรามองตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นจากโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะคลายกับภาพการลงทุนในปี 2557 ขณะที่จุดที่อาจจะต้องมาระวังความเสี่ยงจากเงินทุนไหลออกจะเกิดขึ้นในช่วงประกาศกรอบการลดการซื้อพันธบัตรจริง (ซึ่งน่าจะอยู่ระหว่าง ก.ย.-ธ.ค.64) และในช่วงกลางปี 2565 เป็นต้นไป เพราะจะใกล้ช่วงเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก

นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณเปิดประเทศใน 120 วัน โดยใช้เป้าหมายการได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งเข็มของประชากร 70% หรือ 50 ล้านคน เพื่อดำเนินการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม สามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว แม้จะเป็นเป้าหมายที่มีความเสี่ยงในเชิงกลยุทธ์ต่อการเกิดการระบาดระลอกใหม่ แต่อย่างน้อยเรามองว่า 1) เป้าหมายการฉีดวัคซีนมีความเป็นไปได้ (เฉลี่ย 375,000 ราย/วัน เทียบกับศักยภาพในการฉีดสูงสุดที่ทำได้ที่ 472,128 ราย) 2) คาดรัฐบาลจะออกมาตรการสนับสนุนและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลัง 3) ประเมินมีความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภา เพื่อใช้ประโยชน์จากความนิยมและโมเมนตัมทางเศรษฐกิจในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ดังนั้นเรามองเป็นปัจจัยบวกต่อการบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ

ธีมลงทุนอื่นที่น่าสนใจ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 5) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 6) เก็งกำไรกลุ่มดิจิตัลทีวี BEC, WORK, MONO, JKN 7) หุ้นกลุ่มเหล็ก TSTH, GJS, AMC 8) กลุ่มโลจิติกส์ที่มีสัญญาณระยะสั้นเป็นบวก SONIC, NCL 9) หุ้นกลุ่มเรือ TTA, PSL, RCL

ภาพรวมกลยุทธ์ คาด SET Index ระยะสั้นอาจปรับลดลงสะท้อนการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐฯ จากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยที่เร่งขึ้น แต่ไม่เปลี่ยนภาพใหญ่ที่เรามองแกว่งขึนทดสอบ 1650-1680 จุด คล้ายช่วงลด QE (Tapering) ปี 2557 เน้นหุ้นกลุ่มเปิดเศรษฐกิจ และทยอยสะสมสื่อสารและกองรีทส์ รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว

 

// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร AWC*, BDMS*, FORTH*, TIP*

แนวรับ: 1,606-1,615/ แนวต้าน : 1,630-1,650 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

 

ประเด็นการลงทุน

สธ.ชี้ผลิตอาหารกัญชงได้. สาธารณสุขแจ้งความคืบหน้ากัญชง อนุญาตนำเข้าเมล็ดแล้ว มั่นใจทันฤดูกาลเพาะปลูกเดือน ส.ค. นี้ ชี้ผู้ประกอบการสามารถนำเมล็ดกัญชง, น้ำมันจากเมล็ดกัญชง, และโปรตีนจากเมล็ดกัญชงไปพัฒนาต่อได้

SET ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์เข้า-ออกดัชนี SET50/100 สำหรับครึ่งปีหลีง

SET50 (+) เข้า : IRPC, KCE, STA, STGT // (-) ออก : AWC, BAM, TOA และ VGI

SET100 (+) เข้า : AAV, ICHI, NRF, PSL, PTL, SINGER, STGT, SYNEX, TKN // (-) ออก : AWC, BPP, EPG, GFPT, MBK, TOA, TPIPP, TTW และ WHAUP

 

ประเด็นติดตาม: - 17 มิ.ย.: EU CPI เดือน พ.ค., 18 มิ.ย.: BOJ Meeting

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)