ตรัง เร่งค้นหาเชิงรุกผู้ป่วยในครอบครัว-ชุมชน หลังเด็กติดเชื้อมากขึ้น

ตรัง เร่งค้นหาเชิงรุกผู้ป่วยในครอบครัว-ชุมชน หลังเด็กติดเชื้อมากขึ้น

ตรัง เร่งค้นหาเชิงรุกผู้ป่วยในครอบครัว - ชุมชน จากคลัสเตอร์ถุงมือยาง "ศรีตรังโกลฟส์" หลังพบผู้ติดเชื้อเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะเด็กติดเชื้อมากขึ้น ล่าสุด วันเดียวพบอีก 7 คน

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 64 กำลังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลต่างๆ ใน อ.กันตัง รวมทั้งตำบลคลองลุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อสม. ยังคงเร่งลงพื้นที่สอบสวนโรคประชาชนในชุมชน เพื่อค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงกับผู้ป่วยติดเชื้อคลัสเตอร์ถุงมือยาง บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ ตั้งอยู่ใน ต.ควนธานี อ.กันตัง ที่ยังคงมีอีกจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จากนั้นได้ส่งผู้มีประวัติเสี่ยงดังกล่าว ต่อไปยัง อาคารคอซิมบี้ อ.กันตัง จ.ตรัง ให้ทีมแพทย์โรงพยาบาลกันตัง เร่งทำการเก็บสารคัดหลั่งจากโพรงจมูกอย่างเร่งด่วน ที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างต่อเนื่องวันละกว่า 200 คน หลังยังพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันทั้งในส่วนของพนักงานที่ถูกกักกันอยู่ในสถานที่กักกัน คนในครอบครัว และผู้สัมผัสใกล้ชิด

โดยล่าสุด เมื่อวานนี้ ศบค.ตรังได้แถลง จ.ตรัง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 24 ราย เป็นคนไทย 20 ราย แรงงานข้ามชาติชาวเมียนมา 4 ราย ในจำนวนนี้พบเป็นเด็กสูงถึง 7 ราย ประกอบด้วย เด็กอายุ 1 ขวบ จำนวน 4 ราย ,อายุ 4 ขวบ จำนวน 1 ราย,อายุ 8 ขวบ 1 ราย และอายุ 13 ขวบ 1 ราย โดยพบเป็นพนักงานศรีตรังโกลฟส์ จำนวน 6 ราย เป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อโรงงานศรีตรังโกลฟส์ จำนวน 11 ราย ส่วนใหญ่ยังคงพบในอำเภอกันตัง จำนวน 12 ราย จึงทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อในอำเภอกันตังยังพุ่งสูงขึ้นต่อทุกวันจากคลัสเตอร์ดังกล่าว โดยยอดรวมล่าสุดของอ.กันตัง พบผู้ป่วยแล้วจำนวน 614 ราย ทำให้ทีมแพทย์ พยาบาลต้องทำงานอย่างหนักในการ Swab ตรวจหาเชื้อทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ เพื่อเร่งระงับยับยั้งโรคโดยเร็วที่สุด

ด้าน นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น โฆษก ศบค. กล่าวว่า คลัสเตอร์ถุงมือยาง ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่องเป็นวงกว้างกระจายในหลายอำเภอ จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกของเจ้าหน้าที่ โดยพบมากที่สุดในอ.กันตัง รวมทั้งมีเด็กรวมอยู่ด้วย จำนวน 7 ราย โดยอายุ 1 ขวบ จำนวน 4 ราย ,อายุ 4,8,13 อีก 3 ราย ทั้ง 7 ราย เป็นการสัมผัสร่วมบ้าน จึงขอเน้นย้ำประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากอนามัยภายในบ้าน การแยกกันรับประทานอาหารแยกห้องนอน เว้นการรวมกลุ่มเยี่ยมเยือนกัน โดยเฉพาะคนที่ทำงานนอกบ้าน หวั่นนำเชื้อเข้าบ้าน เพราะผู้ป่วยเด็กเมื่อติดเชื้อโควิดก็จะต้องเข้ารับการรักษาเช่นเดียวกันกับผู้ใหญ่ ไปอยู่โรงพยาบาล 14 วัน ซึ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงเป็นความยากลำบากของผู้ปกครองในการดูแล จึงย้ำประเด็นการแพร่ระบาดในบ้าน ให้พี่น้องประชาชนได้รักษามาตรการ