'คนละครึ่งเฟส 3' ปลัดคลังยัน ไม่เพิ่มเงินเป็น​ 6,000 บาท

'คนละครึ่งเฟส 3' ปลัดคลังยัน ไม่เพิ่มเงินเป็น​ 6,000 บาท

ปลัดคลังยันไม่เพิ่มวงเงิน "คนละครึ่งเฟส3" ตามที่กกร.เสนอ​ พร้อมเผยสภาพัฒน์เตรียมมาตรการดูแลเอสเอ็มอีเพิ่มเติม

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. มีความเห็นว่า​ ควรเพิ่มวงเงินโครงการ "คนละครึ่งเฟส 3" เป็น 6 พันบาท เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลังว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการหารือกัน เนื่องจาก​ พระราชกำหนดกู้เงิน 5 แสนล้านบาทเพิ่งผ่านวุฒิสภา และการช่วยเหลือนั้น​ จะต้องครอบคลุมรวมถึง​ ผู้ประกอบการด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาความช่วยเหลืออยู่

“ตอนนี้การลงทะเบียน คนละครึ่งเฟส 3 เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังคำนวณไว้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิ์ในโครงการนี้ประมาณ 31 ล้านคน โดยขณะนี้​ มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 20 ล้านคนแล้ว ซึ่งที่เหลือสามารถเลือกว่าจะเข้าร่วมโครงการไหนระหว่างคนละครึ่งและยิ่งใช้ยิ่งได้”

ส่วนมาตรการช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเสริมสภาพคล่อง ช่วยรักษาระดับการจ้างงานนั้น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ กำลังรวมรวบข้อมูลเพื่อพิจารณาออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีทั้งในระบบและนอกระบบที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้มีการร่วมมือกันจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาวางแนวทางช่วยเหลือ

สำหรับการเปิดลงทะเบียนใหม่เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)และสำนักงานปลัด กำลังกำหนดรูปแบบและหลักเกณฑ์ผู้ที่เข้าร่วมอยู่ ส่วนจะมีการเปิดลงทะเบียนใหม่ตอนไหนจะต้องรอดูเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นหลังจากโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐต่างๆ และอยากให้สถานการณ์โควิด-19​ คลี่คลายเสียก่อน ถึงจะเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกครั้ง เพราะใช้บุคคลากรกลุ่มเดียวกันเป็นผู้ดูแลโครงการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมีผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.65 ล้านคน โดยเริ่มมีการให้สวัสดิการตั้งแต่ปี 2561 ส่วนเกณฑ์การได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น คาดว่า​ จะเพิ่มการพิจารณาคุณสมบัติจากรายได้ครัวเรือน จากที่ผ่านมาจะพิจารณารายได้รายบุคคลเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2564 (ต.ค. 2563-ก.ย. 2564) รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อสนับสนุนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมทั้งสิ้น 4.95 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 9.5 พันล้านบาท จากปีงบประมาณ 2563