นวัตกรรมจุฬาฯ 'หน้ากากอนามัย 2 in1' กันฝุ่น-ไวรัส เพื่อสุขภาพชีวิตวิถีใหม่

หน้ากากอนามัยกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตวิถีใหม่ไปแล้ว ไม่เพียงปกป้องจากโควิด-19 แต่ยังช่วยสกัดฝุ่น PM2.5 ที่คุกคามสุขภาพของทุกชีวิตด้วย การคิดค้นนวัตกรรมหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้ง่าย สะดวก และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเรื่องจำเป็นในการรักษาสุขภาพของผู้คนและโลก

รองศาสตราจารย์ ดร.พิชญ รัชฎาวงศ์ ประธานกรรมการหลักสูตรวิศวกรรมและเทคโนยีการป้องกันประเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยที่มาของนวัตกรรมหน้ากาก 2in1 หลักสูตรวิศวกรรมและเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ คณะวิศวฯ จุฬาฯ และ บมจ. ปตท. ร่วมมือกันคิดค้นนวัตกรรมหน้ากากอนามัย 2in1 ที่ป้องกันได้ทั้งฝุ่นพิษและโควิด โดยเฉพาะสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม เช่น ทหาร ตำรวจ หน่วยกู้ภัย ซึ่งทำงานอยู่แถวหน้า มีความเสี่ยงสูงที่จะติดโควิดและรับฝุ่นพิษ ซึ่งในขั้นแรกได้พิสูจน์ประสิทธิภาพและความพึงพอใจจากพนักงานบริษัท ปตท. ที่ได้ทดลองใช้ โดยหน้ากากอนามัย 2in1 เป็นคำตอบของวิถีชีวิตใหม่ สามารถกรองฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 84% และดักแบคทีเรียหรือไวรัสได้สูงถึง 99%

หน้ากาก 2in1 ใช้ง่าย ประสิทธิภาพสูง

รศ. ดร.พิชญ อธิบายโครงสร้างหน้ากาก 2in1 ว่าประกอบด้วย 3 ชั้นด้วยกัน ชั้นนอกเป็นผ้าทอจากใยสังเคราะห์ (โพลีเอสเตอร์) ช่วยสะท้อนน้ำและสารเคมี ด้านนอกเคลือบสารกันน้ำและสารฆ่าเชื้อโรค หน้ากากชั้นที่ 2 เป็นช่องสำหรับใส่ไส้กรอง ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ความละเอียดสูงเพื่อดักฝุ่นละอองโดยเฉพาะ และถอดเปลี่ยนได้ ส่วนชั้นในสุดผลิตจากผ้าฝ้าย 100% ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายและปลอดภัยจากเคมี

รศ. ดร.พิชญ เสริมว่า หน้ากากอนามัย 2in1 ใช้สะดวก ทำความสะอาดก็ง่าย เพียงฉีดพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อ 70% แล้วผึ่งให้แห้ง หรือจะซักก็ได้ ซึ่งซักได้ 15 ครั้งเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม หน้ากาก 3 ชั้น เหมาะกับการใช้งานขณะอยู่ภายในอาคาร เพราะถ้าอยู่กลางแจ้งอาจทำให้ผู้สวมหน้ากากเกิดอาการอึดอัดและรำคาญจากความร้อนได้ ซึ่งนักวิจัยก็กำลังพัฒนาหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นเดิมหรือสูงกว่า แต่ในขนาดที่บางลง 

หน้ากากเป็นมิตรต่อโลก

ทั้งนี้ความรับผิดชอบสูงสุดของนักพัฒนานวัตกรรมดังปรากฏในทุกกระบวนการผลิตหน้ากากอนามัยแบบ 2in1 ซึ่งต้องผ่านการทดสอบองค์ประกอบต่างๆ ทั้งคุณสมบัติกันน้ำ ป้องกันแบคทีเรีย ไวรัส และฝุ่น เฉพาะอย่างยิ่ง ความพิเศษของหน้ากากที่ใช้ซ้ำได้หลายครั้ง จึงลดปริมาณขยะติดเชื้อ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แม้แต่วิธีการกำจัดหน้ากากก็คำนึงถึงความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนขยะติดเชื้อให้เป็นพลังงานด้วยการสนับสนุนจาก ปตท. ที่มีนวัตกรรมการกำจัดขยะด้วยความร้อนหลอมละลายเปลี่ยนเป็นน้ำมันนำไปใช้งานอย่างอื่นได้อีก โดยใจความสำคัญไม่ได้ตั้งใจที่จะผลิตเชิงพาณิชย์ แต่จะเป็นการผลิตเพื่อสังคมเป็นหลัก

“อีกไม่นาน หน้ากากแบบ 2in1 ที่ป้องกันได้ทั้งฝุ่น PM2.5 และโควิด–19 จะผลิตเพื่อทุกคนได้ใช้ในราคาย่อมเยา ปัจจุบัน นักวิจัยกำลังเร่งเก็บข้อมูลเรื่องการใช้งานในระยะยาว ส่วนการวางจำหน่าย ทาง ปตท. จะเป็นผู้จัดการวางแผนการตลาด” รศ.ดร.พิชญ กล่าวทิ้งท้าย