กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ (14 มิ.ย.64)

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ (14 มิ.ย.64)

14-18 มิถุนายน: ประเด็นการเร่งฉีดวัคซีนยังหนุนตลาด

ตลาดน่าจะยังขึ้นต่อในโหมด sideways up

ในสัปดาห์ที่แล้ว (7-11 มิถุนายน) ดัชนี SET ยังคงขยับขึ้นต่อแบบ sideways up ซึ่งเป็นไปตามที่เราระบุเอาไว้ในบทวิเคราะห์รายสัปดาห์ โดยความคาดหวังด้านบวกที่เพิ่มขึ้นต่อการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 ในประเทศไทย และแนวโน้มการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจโดยรวมใน 2H64 และปี 2565 ทำให้เกิดแรงซื้อในหุ้นท่องเที่ยว และ หุ้นในธีม reopening โดยหุ้นการบริโภคได้แรงหนุนจากการที่สภาฯ อนุมัติร่าง พรก. กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท และมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่รออยู่ข้างหน้า ในขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่ง outperform ตลาดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กลับหยุดพัก เนื่องจาก spread ของบริษัทหลักในกลุ่มปิโตรเคมีลดลงหลังจากที่วิ่งขึ้นมาแรง ในขณะที่นักลงทุนเปลี่ยนกลุ่มไปหุ้น domestic play ซึ่งมีธีมการลงทุนที่สดใหม่มากกว่าแทน ทั้งนี้ ตลาดการเงินโลกไม่ได้ตอบรับในเชิงลบกับตัวเลข CPI เดือนพฤษภาคมของสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาด เนื่องจากมีการคาดกันว่าธนาคารกลางส่วนใหญ่จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างมากต่อไปในช่วงที่เหลือของปีนี้ แม้ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นในระยะสั้นก็ตาม

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่าจะมีการเร่งฉีดวัคซีน COVID-19 เพิ่มขึ้น และจะมีกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น แต่เราคาดว่าดัชนี SET จะขยับขึ้นต่อได้ในระดับปานกลางเท่านั้น เช่นเดียวกับช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยหุ้น global cyclical อาจจะพักฐาน ในขณะที่หุ้น domestic, การท่องเที่ยว และหุ้นในธีม reopening จะกลับมาเป็นกลุ่มหลักที่นักลงทุนให้ความสนใจ ถึงแม้ว่าหลายวันมานี้จะมีกระแสข่าวลบเข้ามาบ้างเกี่ยวกับปัญหาขาดแคลนวัคซีนในประเทศไทย และโมเมนตั้มของการกระจายวัคซีนอาจจะแผ่วลงไปบ้างในระยะสั้น แต่เรามองว่าผลกระทบต่อดัชนี SET น่าจะจำกัด ส่วนปัจจัยภายนอกนั้น นักลงทุนน่าจะติดตามผลการประชุม FOMC ของสหรัฐในวันที 17 มิถุนายน ว่าจะมีการปรับท่าทีต่อนโยบายการเงินอย่างไรบ้าง

ติดตามกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในประเทศไทย และผลกระประชุม FOMC ของสหรัฐ

(0) กระแสข่าว และรายงานความคืบหน้าของยอดผู้รับวัคซีนในประเทศ สื่อต่าง ๆ รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การส่งมอบวัคซีน AstraZeneca ในสัปดาห์นี้จะล่าช้าไปสองวันเป็นวันที่ 16 มิถุนายน ซึ่งหากมีการเลื่อนกำหนดอีกจะส่งผลกระทบกับภาวะตลาดหุ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่มีเหตุให้สะดุดไปบ้างในสัปดาห์ที่แล้ว การฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มประกันตนตามมาตรา 33 จะกลับมาดำเนินการต่อในวันนี้

(0) ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ/ผลการประชุม FOMC ในวันพฤหัสบดี นักลงทุนกำลังจับตาดูว่า Fed จะปรับท่าทีต่อมาตรการกระตุ้นทางการเงินอย่างไร และจะมีการปรับประมาณการ GDP และเงินเฟ้อสหรัฐหรือไม่ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพฤษภาคมที่มีผลต่อตลาดและจะออกมาในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีก (15 มิถุนายน) และการผลิตภาคอุตสาหกรรม (15 มิถุนายน)

ยังคงเน้นหุ้นในธีม reopening ต่อไป

เรายังคงมองว่าหุ้นในธีม global cyclical อาจจะเสียความนิยมไป อย่างน้อยก็ในระยะสั้น จากการที่นักลงทุนกลับมามองบวกกับการกระจายวัคซีนในประเทศไทย และการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ดังนั้น นักลงทุนจึงควรปรับสถานะการลงทุนโดยเน้นที่ i) หุ้น big-cap ที่จะได้อานิสงส์จากแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะดีขึ้นในระยะกลางถึงยาว อย่างเช่น AOT* และ MINT* ii) หุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการทที่ไทยกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง อย่างเช่น CPN*, BEM*, MAJOR* และ SPA iii) หุ้น mid-cap ที่ผลประกอบการมีแนวโน้มพลิกฟื้นอย่างแข็งแกร่งในปีนี้ อย่างเช่น BEC* และ SAT